GT

Please select your country / region

Close Window
TH
ล่าสุดรายงานสดบันทึกข้อมูล

กลับสู่รายการ

NATIONS CUP
เจ้าบ้านชนะการแข่งขัน Gran Turismo World Tour Nations Cup จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นไปครั้งแรก!
รายงานการแข่งขัน Nations Cup 'World Tour 2019 – โตเกียว'
29/10/2019

กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (27 ตุลาคม 2019) – Ryota Kokubun จากญี่ปุ่นที่ได้รับเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม ได้เก็บชัยชนะใน Nations Cup อย่างสมเกียรติในการแข่ง Gran Turismo World Tour 2019 รอบที่ 5 ในวันนี้ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ FIA Certified Gran Turismo Championships Kokubun ผู้เล่นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้ยืนอยู่บนยอดโพเดียมในปี 2019 หลังจากการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความกดดันและความตื่นเต้นในช่วงสุดสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน GR Supra GT Cup ที่ใช้รถคันเดียวกัน หรือว่าจะเป็นการแข่งขันจัดแสดงของ Manufacturer Series และที่สำคัญที่สุด Nations Cup ที่ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ผู้คนก็ได้มาที่นี่ Mega Web Toyota City Showcase อย่างเต็มเปี่ยมเพื่อดูรายการแข่งขันประจำวันนี้ที่จะรวมถึงการแข่งขันรอบคัดเลือก 6 อันดับแรก การแข่งขันรอบรองชนะเลิศ การแข่งขันรอบแก้ตัว และการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ

ในการแข่งขันที่โตเกียวนั้น จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันสำหรับ Nations Cup ก็คือผู้ชนะ 4 อันดับแรกของรอบรองชนะเลิศจะผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ในขณะผู้ที่ได้อันดับที่ 5 ถึงอันดับที่ 10 จะได้โอกาสอีกครั้งในรอบแก้ตัว จะต้องเข้าไปแข่งเพื่อจบการแข่งขันให้ได้ 4 อันดับแรกจึงจะผ่านเข้ารอบไปได้ ส่วนคนที่ไปไม่ถึงก็คงได้แต่บอกว่า “ซาโยนาระ เจอกันปีหน้า”

Kokubun ผู้ที่กำชัยชนะเหนือสุดยอดผู้เล่นทั่วโลก 24 คน ก็ได้เก็บตั๋วเดินทางเข้าสู่ World Finals ที่จะจัดขึ้นที่กรุงโมนาโกในวันที่ 23 และ 24 พฤศจิกายนได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นที่ที่เขาจะต้องต่อสู้ปะทะกับผู้ชนะ World Tour ประจำฤดูกาลนี้ท่านอื่นซึ่งก็คือ Nicolás Rubilar จากชิลี Igor Fraga จากบราซิล และ Mikail Hizal จากเยอรมนี และรวมถึงผู้เล่นท่านอื่นที่ผ่านเข้ารอบจากการแข่งขันออนไลน์

รอบรองสุดท้ายกลุ่ม A

ในรอบรองสุดท้ายช่วงแรก คำว่าประหลาดน่าจะใช้อธิบายได้ดีที่สุด Takuma Miyazono จากญี่ปุ่นที่ได้ขับขี่อย่างดีเยี่ยมในรอบคัดเลือก 6 อันดับแรก ก็ได้จุดออกตัวลำดับที่ 1 ของรอบรองสุดท้ายกลุ่ม A ไปครอง เป็นการแข่งขัน 4 รอบสนามรอบซาร์ดิเนีย - โร้ดแทร็ก - A ที่ค่อนข้างจะยาก เป็นสนามแข่งเปิดตัว Jaguar Vision Gran Turismo รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อที่สวยงามแต่เปี่ยมพลังที่มีสมรรถนะราวกับรถแข่ง F1 การแข่งขันครั้งนี้จะบังคับให้นักแข่งใช้ทั้งยางแบบปานกลางและยางแบบแข็งเป็นระยะทางขั้นต่ำ 2 รอบสนามติดต่อกัน

พอธงเขียวโบกสะบัด ฝูงคาราวานรถยนต์ก็ได้ลุยเข้าไปที่ยอดโค้งของโค้งที่ 1 เพื่อที่จะผ่านโค้งแรกไปให้ได้เป็นคนแรก แต่ทว่า Rick Kevelham จากเนเธอร์แลนด์ก็ได้ลุยหนักเกินไปหน่อย จิ้มหน้าของรถ Jaguar ชนท้ายรถของ Manuel Rodríguez (สเปน) ส่งผลทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่รถชนกันกองพะเนินที่กระเด็นไปโดน Miyazono จ่าฝูง และ Adriano Carrazza (บราซิล) ที่ 2 Kevelham จึงถูกลงโทษทันที 10 วินาที แต่ว่าผู้ควบคุมการแข่งขันได้ตัดสินใจว่า เหตุการณ์ใหญ่ระดับนี้จำเป็นจะต้องมีการเริ่มการแข่งขันกันใหม่ และได้โยนธงแดงผืนแรกของการแข่งขัน FIA GT Championships ออกมา

หลังจากที่รถทุกคันได้มาเรียงแถวกันใหม่ที่จุดออกตัว ยกเว้นรถของ Kevelham ที่ถูกส่งไปอยู่ท้ายแถวเพราะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ และธงเขียวก็ได้โบกสะบัดเป็นครั้งที่ 2 และทันใดนั้นเองทุกคนก็ตะลุยมุ่งหน้าเข้าไปสู่โค้งที่ 1 อีกครั้ง ซึ่งก็มองเห็นได้ชัดตั้งแต่เริ่มว่า Miyazono ไม่ค่อยจะพอใจที่ Jaguar VGT เข้ากว้างไปในโค้งแรก หล่นลงไปอยู่ลำดับที่ 5 และคนที่นำหัวแถวอยู่ก็คือ Carrazza ตามมาติด ๆ ด้วย Andrew Brooks จากแคนาดา และ Nicolás Rubilar จากชิลี

หลังจากนั้น ในขณะที่ยังอยู่ในรอบสนามเริ่มแข่งขันอยู่ Rubilar ก็เข้าโค้ง 9 กว้างเกินไป ชนเข้ากับผนัง และจากนั้นก็กลับลงมาสู่สนามแข่งอีกครั้ง แต่ว่าก็ได้ไปขวางทางรถคันอื่นอีกหลายคัน ถึงรถของ Brooks ด้วย ที่หมุนแล้วก็หล่นลงไปอยู่ท้ายแถว Carrazza กับ Coque López ชาวสเปน ที่ออกตัวในลำดับที่ 8 ก็สามารถหลบหลีกความโกลาหลและขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 1-2 ได้

แน่นอนว่ามันยังไม่จบแค่นี้ เพราะในรอบสนามที่ 2 ก็มีการแข่งขันเพื่อชิงลำดับที่ 3 ก็ยังเข้มข้น Miyazono, Adam Wilk จากออสเตรเลีย และ Rodríguez คลุกวงในและแตะกันไปแตะกันมาเหมือนรถบั๊มพ์ (แต่วิ่งกันที่ 200 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในขณะที่กำลังต่อสู้ปะทะเพื่อแย่งชิงที่ 3 กันนั้น Carrazza กับ López ก็ขยายเวลาการนำขึ้นไปได้ถึง 5 วินาที

เมื่อเริ่มรอบสนามที่ 6 ครึ่งทางของการแข่งขัน ขณะนี้ลำดับการวิ่งคือ Carrazza, López, Rubilar และ Miyazono แต่ว่านักแข่งชาวญี่ปุ่นก็ต้องยอมปล่อยตำแหน่งของตนเองให้หลุดมือไปเพราะได้มุ่งหน้าเข้าสู่พิทเปลี่ยนไปใช้ยางแบบแข็งที่บังคับใช้ จากนั้น จ่าฝูงก็ตามเข้ามาในรอบสนามที่ 8 และก็เปลี่ยนไปใช้ยางแบบแข็งที่ช้ากว่าเช่นกัน ในขณะที่ Miyazono พยายามต่อสู้หาทางกลับขึ้นไปอยู่ลำดับที่ 4 ให้ได้นั้น ก็โดน Adam Suswillo จากสหราชอาณาจักรแซงหน้าไป ตอนนี้ขับอยู่บนยางแบบปานกลางที่เร็วกว่า

ใน 2 รอบสนามสุดท้าย เราก็ได้เห็นว่า López ได้ไต่ขึ้นมาจากด้านหลังของ Jag VGT ของ Carrazza พยายามหาโอกาสที่จะแซงให้ได้ แต่ว่านักขับชาวบราซิลก็แสดงความดุดันเหมือนดั่งสุนัขพิทบูล และยันนักแข่งชาวสเปนเอาไว้ได้จนกระทั่งจบ Rubilar ได้แสดงให้เห็นว่าเพราะเหตุใดเขาจึงเป็นผู้ผ่านเข้ารอบไปที่กรุงโมนาโก ด้วยการแซง Wilk ไปอย่างสวยงามเก็บอันดับที่ 3 ไปได้ ส่วนสำหรับ Miyazono เจ้าบ้าน ก็หลุดลงไปรอบแก้ตัว เพราะว่าเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 5 และไม่สามารถตามจับ Wilk ได้ทัน

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Adriano Carrazza UDI_Didico15 +19:13.188
2 Coque López Williams_Coque14 +00.649
3 Nicolás Rubilar FT_NicoR +01.205
4 Adam Wilk Adam_2167 +01.800
5 Takuma Miyazono Kerokkuma_ej20 +05.858
6 Baptiste Beauvois TRL_TSUTSU +06.169
7 Manuel Rodríguez TRL_MANURODRY +09.115
8 Rick Kevelham rick-918-bmx +10.419
9 Patrik Blazsán Williams_Fuvaros +10.649
10 Mikail Hizal TRL_LIGHTNING +12.734
11 Adam Suswillo Williams_Adam41 +14.221
12 Andrew Brooks Turismo-Deafsun +63.335

รอบรองสุดท้ายกลุ่ม B

การแข่งขันรอบรองสุดท้ายครั้งที่ 2 ก็ได้แสดงให้เห็นว่ามีความอ่อนโยนกว่ารอบรองสุดท้ายกลุ่ม A ถึงแม้ว่าจะจัดแข่งกันในเซอร์กิต เดอ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ที่มีสภาพแวดล้อมถนนเปียกอย่างยิ่งก็ตาม และเพื่อทำให้การแข่งขันครั้งนี้ท้าทายยิ่งขึ้น นักแข่งทุกคนจะต้องแข่งขันกัน 7 รอบสนาม โดยใช้รถแข่งขันเดียวกัน: Porsche 911 RSR เครื่องยนต์ด้านหลัง

เสียงกลองก็ดังกระหึ่มขึ้นเมื่อธงเขียวโบกสะบัด Ryota Kokubun จากญี่ปุ่นผู้ออกตัวเป็นลำดับแรกก็นำขบวนเข้าไปสู่โค้งที่ 1 และเพราะว่ารถยนต์ทุกคันจะใช้ยางสำหรับถนนเปียก เพราะฉะนั้นจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องหยุดเข้าพิทในการแข่งขันครั้งนี้

ในช่วงการเริ่มแข่งขัน Kin Long Li จากฮ่องกงได้เสียการควบคุมของรถของตนเองไปชั่วขณะหนึ่ง ไปโดน Kevan Pounder จากสหรัฐอเมริกาการแข่ง และสุดท้ายก็ได้ส่ง Salvatore Maraglino จากอิตาลีออกนอกสนามไป และ Li ก็ได้ถูกลงโทษ 2 วินาทีจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตกรอบไปโดยปริยาย เมื่อจบรอบสนามที่ 1 ลำดับก่อนหลังของกลุ่มหัวแถวจึงเป็นดังนี้ Kokubun, Cody Nikola Latkovski จากออสเตรเลีย, Rayan Derrouiche จากฝรั่งเศส และ Tomoaki Yamanaka จากญี่ปุ่น

Latkovski พยายามที่จะหาทางมุดแซง Kokubun ขึ้นไปให้ได้ในรอบสนามที่ 4 แต่ว่าได้หลุดออกจากสนามแข่งไปอีกเล็กน้อย เลยทำให้โดนทำโทษ 0.5 วินาที ซึ่งก็ทำให้ Latkovski ต้องมาวิเคราะห์แผนการของตนเองอีกครั้ง และใช้ความใจเย็นให้มากขึ้น รอให้โอกาสมาถึงแทนการหาทางบังคับเปิดโอกาสให้ตัวเอง

ในรอบสนามที่ 6 เราก็ได้เห็นว่า Giorgio Mangano จากอิตาลีสามารถแซงทะลุกลุ่มโค้ง Les Combes ก็คือโค้งที่ 7 8 และ 9 ได้อย่างสวยงามไปยึดเอาลำดับที่ 4 ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดมาจาก Yamanaka (ญี่ปุ่น) ได้เป็นที่สำเร็จ พอมาถึงจุดนี้ กลุ่ม 3 คันหัวแถวก็ได้ทิ้งห่างออกไปจากกลุ่มอีก 4.5 วินาที โดยมี Latkovski ขับจี้ท้ายรถของ Kokubun มาติด ๆ เพื่อหาโอกาสที่จะแซงขึ้นหน้าให้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม นักแข่งสัญชาติญี่ปุ่นคนนี้ก็มีสมาธิมากเพียงพอและสามารถยันนักแข่งชาวออสเตรเลียผู้ที่โจมตีอย่างดุดันไว้ได้จนกระทั่งผ่านธงหมากรุก ส่วนทาง Derrouiche เอง ก็สามารถคงความเร็วไว้ได้และเข้าเส้นชัยเป็นที่ 3 ในขณะที่ Mangano เก็บที่ 4 ไปครองพร้อมกับผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปด้วยอัตโนมัติ

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Ryota Kokubun Akagi_1942mi 19:14.458
2 Cody Nikola Latkovski Nik_Makozi +00.866
3 Rayan Derrouiche RC_Miura +01.332
4 Giorgio Mangano Williams_Gio +06.804
5 Tomoaki Yamanaka yamado_racing38 +08.686
6 Tatsuya Sugawara blackbeauty-79 +09.869
7 Salvatore Maraglino JIM_Pirata666_ +21.823
8 Alonso Regalado Turismo-Jara +23.688
9 Kevan Pounder Turismo-Windfire +23.982
10 Kin Long Li KarS_0627 +26.555
11 Ben Chou Gmotor_SBen +32.719
12 Daniel Solis CAR_Lamb +50.043

รอบแก้ตัว

โดยปกติแล้วรอบแก้ตัวจะเป็นการแข่งขันที่เละเทะมาก เพราะว่านักแข่งทุกคนจะทำทุกวิถีทางในสนามเพื่อไม่ให้ตกรอบ สำหรับรอบคัดเลือกของ Nations Cup ที่กรุงโตเกียวครั้งนี้ ได้มีการกำหนดรถกลุ่ม N500 ให้แก่นักแข่ง ที่จะมาแข่งขันกัน 6 รอบสนามรอบสนามโตเกียวเอ็กซ์เพรสเวย์ - เซาท์ (วงใน) ตอนกลางคืน

Miyazono ที่นั่งอยู่หัวแถวก็นำหน้าเป็นจ่าฝูงด้วย Lamborghini Huracán และรถที่ตามหลังมาชนเฉี่ยวกันเองเพื่อแย่งชิงตำแหน่งอยู่บนสนามถนนอันคับแคบ Yamanaka ผู้เริ่มออกตัวเป็นที่ 2 ที่ขับรถ Nissan GT-R NISMO ก็มีอันดับลดลงไป 1 ลำดับ แต่จากนั้นก็ได้มุ่งหน้าชาร์จเข้ามาอย่างแรงในช่วงกลางสนามเพื่อยึดที่ 1 ไปจาก Miyazono ซึ่งการกระทำนี้เหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟให้ Miyazono เพราะว่าเขาได้ยึดที่ 1 กลับมาในรอบสนามที่ 2 และขับไปแบบเตรียมตัวชนะหลังจากนำขบวนอยู่ถึง 2 วินาที

ส่วนในทางกลับกัน Yamanaka ก็สูญเสียจังหวะของตัวเองไปหลังจากโดน Miyazono แซง และจากนั้นก็โดนแซงโดย Baptiste Beauvois จากฝรั่งเศส (Honda NSX), Maraglino (Porsche 911 GT3) และ Rodríguez (Lexus LC 500) ลงไปอยู่ลำดับที่ 5 หลุดออกจากการแข่งขันไปเรียบร้อย

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Takuma Miyazono Kerokkuma_ej20 13:27.216
2 Baptiste Beauvois TRL_TSUTSU +01.329
3 Salvatore Maraglino JIM_Pirata666_ +03.692
4 Manuel Rodríguez TRL_MANURODRY +04.546
5 Tomoaki Yamanaka yamado_racing38 +05.363
6 Mikail Hizal TRL_LIGHTNING +05.531
7 Alonso Regalado Turismo-Jara +06.501
8 Tatsuya Sugawara blackbeauty-79 +07.750
9 Patrik Blazsán Williams_Fuvaros +08.294
10 Rick Kevelham rick-918-bmx +08.950
11 Kin Long Li KarS_0627 +09.798
12 Kevan Pounder Turismo-Windfire +09.944

รอบชิงชนะเลิศ

รอบชิงชนะเลิศเป็นการแข่งขันกัน 8 รอบสนามรอบเลอม็องในตำนานที่นักแข่งจะต้องแข่งขันกันในรถแข่ง Formula F1500 มีแต่ที่ Gran Turismo Sport เท่านั้นที่ท่านจะได้เห็นและรับประสบการณ์การแข่งขันรถฟอร์มูล่าบนสนามแข่ง เซอร์กิต เดอ ลา ซาร์ต เพราะรถยนต์ที่สร้างออกมาเพื่อแข่งขันคันนี้จะทำความเร็วไปได้ถึง 240 ไมล์ต่อชั่วโมง (390 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในช่วงทางตรงมุลซานน์!

บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเพราะกองเชียร์ที่เข้ากันมาเต็มสนามได้ส่งเสียงเชียร์กันดังกระหึ่มเชียร์ฮีโร่ของบ้านเกิดตนเอง ซึ่งก็คือ Ryota Kokubun ผู้ที่ออกตัวอยู่ในระดับที่ 2 ตามอันดับที่ 1 Adriano Carrazza จากบราซิล

การแข่งขันครั้งนี้ใช้ระบบการออกตัวจากหยุดนิ่งเป็นครั้งแรกในการแข่งขันรอบสุดท้ายของ World Tour รถยนต์ทุกคันออกตัวกันอย่างขาวสะอาด และ Takuma Miyazono ผู้ที่เริ่มออกตัวอยู่ในลำดับที่ 9 ก็ได้แซง 2 คันข้างหน้าขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 7 ส่วนทาง Kokubun เพื่อนร่วมชาติเองก็ใช่ย่อยเพราะสามารถแซง Carrazza ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงไปได้อย่างสวยงามในช่วงกลางรอบสนามที่ 1 แต่ว่าก็สามารถรั้งตำแหน่งไว้ได้เพียงชั่วครู่เพราะว่านักแข่งสัญชาติญี่ปุ่นผู้นี้ได้ขับผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงตอนที่กำลังมุ่งหน้าผ่าน Esses เข้าไปชนกับรั้วสนามทำให้ Carrazza กับ Coque López นักแข่งสัญชาติสเปนผู้อยู่ที่ 3 แซงขึ้นไปได้

อย่างไรก็ตาม Miyazono เองก็ถือว่าเป็นจอมวางแผนเพราะว่ารีบเข้าพิทตั้งแต่รอบสนามที่ 2 หลังจากที่เห็นว่ากลุ่มผู้นำได้เริ่มออกตัวด้วยยางแบบอ่อน และเลือกที่เปลี่ยนไปใช้ยางแบบปานกลางแทนยางแบบแข็ง เก็บยางแบบอ่อนไว้ใช้ในช่วงท้ายการแข่งขัน นี่ถือว่าเป็นการเดิมพันที่เสี่ยงมาก แต่มีค่าพอให้เสี่ยง เพราะว่าตนเองมีตำแหน่งลดลงมาแล้ว โดยในรอบสนามถัดมา Kokubun และ Lopez ก็ได้เข้าพิท ทั้งคู่เปลี่ยนไปใช้ยางแบบปานกลาง ในขณะที่ Latkovski ก็ตามเข้ามาเปลี่ยนเป็นยางแบบแข็งเพื่อเก็บยางแบบอ่อนเอาไว้ในช่วงท้ายการแข่งขันเหมือนกับ Miyazono ในขณะเดียวกัน Carrazza ที่นำเป็นจ่าฝูงอยู่นั้นก็เลือกที่จะไม่เข้าและใช้ยางแบบอ่อนให้มากรอบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะทิ้งให้ห่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และก็เหมือนว่าจะได้ผล เพราะในเวลาที่นักแข่งชาวบราซิลเข้าพิทในรอบสนามถัดมาเพื่อเปลี่ยนไปใช้ยางแบบปานกลาง ก็ออกมาลงสนามนำหน้า Kokubun อยู่ที่ 1.5 วินาที ทำให้สามารถครองการนำไว้ได้ โดยมี Lopez, Rubilar และ Latkovski ตามหลังมาเป็น 5 อันดับแรก

หลังจากนั้น 3 อันดับแรกเริ่มทิ้งทางขบวนออกไป โดย López ที่อยู่ลำดับที่ 3 ได้ทิ้งห่าง Rubilar ลำดับที่ 4 ออกไปถึง 11 วินาที แต่อย่างไรก็ตามในเวลาที่ทุกคนคิดว่านี่จะเป็นการแข่งขันแบบสามประสาน เหตุการณ์ก็เปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันหลังจากที่นักแข่ง 3 ลำดับแรกตัดสินใจเข้าพิท เปลี่ยนไปใช้ยางแบบแข็งที่บังคับให้ใช้

ในรอบสนามที่ 7 เราจึงเห็น Latkovski กับ Miyazono ผู้ที่ทั้งคู่ใช้ยางแบบอ่อน เริ่มประชิดเข้ามาได้เรื่อย ๆ คำถามก็คือ มีเวลามากเพียงพอที่จะวิ่งตาม Carrazza, Kokubun และ López ได้ทันหรือไม่?

เมื่อผ่านรอบสนามที่ 7 ไปได้ครึ่งทาง Latkovski ก็ตาม López ทัน และด้วยการสร้างแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจึงทำให้นักแข่งชาวสเปนพลาดไปชนกับรั้วกั้น และปล่อยให้ลำดับที่ 3 หลุดมือไป จากนั้นก็ตามมาด้วย Miyazono ที่ชาร์จเข้ามารุนแรงยิ่งกว่ากระทิงเดือด นักแข่งสัญชาติญี่ปุ่นคนนี้มองเห็นช่องเปิดที่โค้งชิเคน Ford และแซงผ่านทั้ง López กับ Latkovski ขึ้นหน้าไปได้ เรียกเสียงเชียร์จากกองเชียร์ได้ดังกระหึ่ม แต่ดูเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว เพราะว่าทั้ง Carrazza กับ Kokubun ในตอนนี้นำหน้าเกินไปกว่าที่จะตามทันแล้ว

ช่วงถัดมาในรอบสนามเดียวกันนั้น Carrazza จ่าฝูงก็ได้ตัดสินใจพลาด และทำให้แชมเปี้ยนชิปหลุดมือไป เขาหลุดจากสนามและโดนปรับเวลา 0.5 วินาที ซึ่งทำให้ Kokubun สามารถแซงขึ้นหน้าไปได้ที่ช่วงทางตรงมุลซานน์เป็นผู้นำโดยรวม ตอนนี้ก็กลายเป็นการแข่งขันกันระหว่างรถ 2 คันที่ Carrazza พยายามจะไต่แซงขึ้นมาให้ได้จากปีกหลังของ Kokubun มองหาช่องที่จะแซงไปให้ได้ แต่ว่า Kokubun ก็ไม่ยอมรามือและสามารถยันนักแข่งชาวบราซิลเอาไว้ได้และมุ่งหน้าผ่านธงหมากรุกกลายเป็นผู้เล่นสัญชาติญี่ปุ่นคนแรกในปี 2019 ที่ชนะรายการ Nations Cup ได้ ต่อจากนั้น Latkovski ก็สามารถยึดที่ 3 จาก Miyazono ผู้ที่ยางเริ่มสูญเสียการเกาะถนนได้สำเร็จ และ López ก็หลุดเข้ามาอยู่ในระดับที่ 5

นอกจากจะเป็นผู้ชนะแล้ว Kokubun ยังได้รับรางวัล Michelin Driver of the Day อีกด้วย เขาได้กล่าวหลังจากจบการแข่งขันว่า: “ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะชนะได้ แต่ผมรู้สึกดีมากในช่วงการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ และอยากจะคงโมเมนตัมเอาไว้ไปให้จนสุด แต่การได้ชนะรอบชิงชนะเลิศนี่คือปาฏิหาริย์ชัด ๆ ผมมีความสุขมากครับ ในอดีตผมเคยแสดงฝีมือได้อย่างน่าผิดหวัง ซึ่งก็ทำให้ผมต้องฝึกฝนให้หนักขึ้นยิ่งกว่าเดิม แล้วผมคิดว่าวันนี้ก็คือผลของการฝึกอย่างหนักครับ ผมหวังว่าผมจะคงโมเมนตัมครั้งนี้เอาไว้ได้จนไปถึงรอบสุดท้ายที่กรุงโมนาโกครับ”

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Ryota Kokubun Akagi_1942mi 26:43.440
2 Adriano Carrazza UDI_Didico15 +00.374
3 Cody Nikola Latkovski Nik_Makozi +00.912
4 Takuma Miyazono Kerokkuma_ej20 +02.190
5 Coque López Williams_Coque14 +07.057
6 Baptiste Beauvois TRL_TSUTSU +07.391
7 Rayan Derrouiche RC_Miura +14.700
8 Giorgio Mangano Williams_Gio +15.223
9 Salvatore Maraglino JIM_Pirata666_ +16.067
10 Nicolás Rubilar FT_NicoR +17.045
11 Manuel Rodríguez TRL_MANURODRY +21.857
12 Adam Wilk Adam_2167 +25.222

กลับสู่รายการ