GT

Please select your country / region

Close Window
TH
ล่าสุดรายงานสดบันทึกข้อมูล

กลับสู่รายการ

NATIONS CUP
วันแรกของ Nations Cup ที่ "World Finals 2019 - โมนาโก" ให้ผลลัพธ์ที่น่าตกตะลึง
23/11/2019

มอนติคาร์โล โมนาโก (22 พฤศจิกายน 2019) – ซีรีส์ 2019 จะปิดฉากลงอย่างน่าตื่นเต้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ณ ดินแดนอันเลิศหรูในโมนาโก อันเป็นที่ตั้งของ Grand Prix โมนาโกในตำนาน พร้อมกับเรือยอชต์แพงระยับที่จอดเรียงรายอยู่ในอ่าวชื่อดังระดับโลก World Finals ของ FIA Gran Turismo Championships เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ด้วยการแข่งสุดเร้าใจ 4 รอบ ได้แก่ รอบรองสุดท้าย 3 รอบและรอบแก้ตัว 1 รอบ ซึ่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและลุ้นระทึก รวมถึงความตกตะลึงที่ได้เห็นแชมป์ปีที่แล้วและนักซิ่งขวัญใจแฟนๆ อย่าง Igor Fraga ถูกคัดออกจากการแข่งที่หนึ่ง

ด้วยนักแข่ง 36 คนจาก 18 ดินแดน/ประเทศที่แข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์โลก 2019 นี่คือการเดิมพันทุกสิ่งที่นักแข่งมากพรสวรรค์เหล่านี้สั่งสมมาตลอดปี ในการแข่งขัน 4 รอบในวันนี้ ตามด้วยอีก 4 รอบในวันอาทิตย์ ซึ่งรวมถึงรอบชิงชนะเลิศ World Finals ของ Nations Cup เป็นตัวแทนของการปิดฉาก FIA Gran Turismo Championship 2019 ที่ประกอบด้วยอีเวนต์ World Tour 5 ครั้งซึ่งจัดขึ้นทั่วโลก ทั้งในปารีส เยอรมนี นิวยอร์ก ออสเตรีย และโตเกียว ผลการแข่งขันเหล่านี้คือตัวตัดสินว่าใครจะได้มาแข่งขันที่นี่ ในโมนาโก

เริ่มต้นวันนี้ด้วยการปรากฏตัวของแขกรับเชิญอย่างนักซิ่งแชมป์โลก Formula 1 6 สมัย ลูอิส แฮมิลตัน ที่มาตอบคำถามของผู้สร้าง Gran Turismo คาซุโนริ ยามาอุจิ และคู่แข่งอันดับต้นๆ บางส่วน จากนั้นลูอิสได้เข้าร่วมในการแข่ง Pro-Am โดยร่วมทีมกับ Fraga และเข้าเส้นชัยเป็นที่ 3 อย่างค่อนข้างน่าผิดหวัง นั่นอาจเป็นลางบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ Fraga ต่อไป

Nations Cup วันที่ 1 รอบรองสุดท้ายกลุ่ม A

ด้วยแขกรับเชิญอย่างลูอิส แฮมิลตัน คู่แข่งที่ดุเดือดที่สุดของฤดูกาลนี้พร้อมจะแสดงฝีมือ เมื่อ Mikail Hizal จากเยอรมนีและอดีตแชมป์ Igor Fraga เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 และ 2 ในแถวแรก (กำหนดโดยรอบคัดเลือกในวันแรก) สถานที่สำหรับการแข่งขันรอบรองสุดท้ายคือเร้ดบูล ริงในออสเตรีย ในการแข่งขัน 10 รอบสนามตามหลังรถแข่ง Toyota GR Supra Gr.3

เพียงไม่กี่วินาทีหลังปล่อยธงสีเขียว สิ่งที่ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น เมื่อ 12 Supras พุ่งเข้าสู้โค้งที่ 1 โดยมี Hizal ขึ้นนำ Fraga เสียการทรงตัวและการควบคุมรถขณะขับออกนอกขอบถนน ทำให้รถหมุนออกจากสนาม นี่เป็นความผิดพลาดที่น่าตกตะลึงจากนักแข่งมากประสบการณ์ ทำให้อดีตแชมป์หล่นจากอันดับ 2 ไปอยู่อันดับ 12 ทันที

เรื่องดีๆ เล็กๆ อย่างหนึ่งคือ Fraga ยังมีการแข่งอีก 9 รอบสนามที่เหลือให้ลองชิงตำแหน่งในรอบแก้ตัว สำหรับผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นที่ 4 ถึง 7 โดยผู้ชนะ 3 อันดับแรกเท่านั้นที่จะได้ผ่านรอบคัดเลือกและการแข่งขันในวันอาทิตย์โดยอัตโนมัติ อีก 4 อันดับรองลงมาจะต้องแข่งขันกันในรอบแก้ตัว ส่วนคนที่ได้อันดับต่ำกว่า 7 จะถูกคัดออกในทันที... ถือเป็นการปิดฉากสุดสัปดาห์และฤดูกาลของพวกเขา

Fraga พยายามไล่ตามคู่แข่งอย่างกล้าหาญ ค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมาบนกริด ด้วยความไม่สบายใจจากความผิดพลาดก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ Fraga ยังคงทำพลาดอย่างต่อเนื่องและอาจถูกลงโทษ ในที่สุดเขาก็จะพ่ายแพ้ให้แก่แรงกดดันงั้นหรือ?

Hizal จับจังหวะสบายๆ ได้ โดยรักษาความเร็วนำหน้า Rayan Derrouiche (ฝรั่งเศส) ซึ่งมาเป็นที่ 2 ไว้ที่ 1.3 วินาทีอย่างสม่ำเสมอ และ Giorgio Mangano (อิตาลี) ที่อยู่ที่ 3 นักแข่งเหล่านี้ตั้งใจรักษาตำแหน่งของตัวเอง ไม่เสี่ยงอะไรแบบไม่จำเป็นแทบจะตลอดการแข่งขัน แต่แล้วก็มาถึงรอบสนามที่ 9 เมื่อ Mangano บังคับ Supra เข้าด้านในโค้ง 3 และแซง Derrouiche ขึ้นเป็นที่ 2 ได้สำเร็จ จากนั้น Derrouiche ก็เกือบปล่อยให้ Adam Suswillo ที่อยู่อันดับที่ 4 จากสหราชอาณาจักรแซงหน้าขณะตีคู่กันขึ้นมาในช่วงทางตรงด้านหลัง แต่นักแข่งจากฝรั่งเศสก็รักษาตำแหน่งเอาไว้ได้

ในขณะเดียวกัน ที่ท้ายแถว Fraga ไต่อันดับขึ้นมาเป็นที่ 9 เนื่องจาก Kin Long Li (ฮ่องกง) ทำพลาด และนักแข่งบ้านเดียวกันอีกคน Adriano Carrazza (บราซิล) ถูกลงโทษ ทว่า Fraga ก็ไม่อาจเจาะเข้ามาในกลุ่ม 7 อันดับแรกได้ ปิดฉากการแข่งเป็นที่ 10 อย่างน่าเศร้า ความหวังจะเป็นแชมป์ 2 ฤดูกาลต่อกันของเขาพังทลาย

รอบนี้เป็นของ Hizal ที่รักษาตำแหน่งเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 เอาไว้ได้เร็วกว่า Mangano ที่ได้ที่ 2 และ Derrouiche ที่ได้ที่ 3 มากกว่า 2 วินาที ผู้ที่เข้าเส้นชัยอีกสามคนถัดไปคือ Suswillo, Tatsuya Sugawara จากญี่ปุ่น Rick Kevelham จากเนเธอร์แลนด์ และ Benjamin Bader จากฮังการี ซึ่งจะได้เข้าสู่รอบแก้ตัว

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Mikail Hizal TRL_LIGHTNING 15:04.477
2 Giorgio Mangano Williams_Gio +02.318
3 Rayan Derrouiche Veloce_Miura +02.801
4 Adam Suswillo Williams_Adam41 +03.149
5 Tatsuya Sugawara blackbeauty-79 +05.978
6 Rick Kevelham HRG_RK23 +06.185
7 Benjamin Bader ROH_Benito +09.141
8 Jose Brea PR1_JotaemeBrea +09.420
9 Adriano Carrazza UDI_Didico15 +09.755
10 Igor Fraga IOF_RACING17 +09.858
11 Kevan Pounder Turismo-Windfire +10.653
12 Kin Long Li KarS_0627 +20.128

Nations Cup วันที่ 1 รอบรองสุดท้ายกลุ่ม B

หลังสถานการณ์หักมุมในรอบรองสุดท้ายกลุ่ม A เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดยังคงดำเนินต่อไปในการแข่งที่สองของ FIA Gran Turismo Championships 2019 การต่อสู้ 9 รอบสนามบนดราก้อนเทรล – ซีไซด์ในจินตนาการ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนขับ Fittipaldi EF7 Vision Gran Turismo ซูเปอร์คาร์ที่ปรับแต่งมาเหมือนกัน ซึ่งคิดค้นโดยแชมป์ Formula 1 2 สมัยและผู้ชนะ Indy 500 2 สมัย Emerson Fittipaldi ทั้งยังออกแบบโดยบริษัทออกแบบระดับตำนาน Pininfarina

เจ้าของตำแหน่งนี้คือผู้ผ่านเข้ารอบลำดับที่หนึ่งของการแข่งขัน Nations Cup วันแรก Cody Nikola Latkovski จากออสเตรเลีย ที่เพิ่งชนะ FIA Motorsport Games Digital Cup มาสดๆ ร้อนๆ ในเดือนนี้ ทันทีที่ธงเขียวโบกสะบัด Latkovski ก็ทิ้งห่างคนอื่นแบบไม่เห็นฝุ่น โดยไม่ถูกรบกวนด้วยความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นตามหลังเขาในไม่ช้า ขณะเข้าสู่โค้งที่ 2 โค้งสุดโหดอันแรก เกิดการแข่งขันเบรกช้าที่ทำให้ Pierre Lenoir (ฝรั่งเศส) หล่นจากที่ 9 ไปที่โหล่ทันที

ลำดับนักแข่งแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งรอบสนามที่ 3 เมื่อ Ryota Kokubun จากญี่ปุ่นที่เพิ่งคว้าชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ในโตเกียวได้เมื่อเดือนที่แล้ว กับ Manuel Rodríguez (สเปน) และ Fabian Portilla (ชิลี) ขับแบบหน้ากระดานเรียงสามเข้าสู่โค้งที่ 3 ซึ่งเป็นโค้งที่แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาความเร็วเอาไว้ได้โดยไม่มีการตั้งแถวที่ถูกต้อง Kokubun ที่อยู่ด้านนอกถูกดันจนรถหมุน ทำให้เขาตกไปอยู่ที่โหล่

ไม่กี่วินาทีต่อมา Simon Bishop (นิวซีแลนด์) ที่ได้ที่ 4 เบรกช้าเกินไปและพุ่งออกจากโค้งที่ 5 เหมือนจรวด ขณะที่ Portilla ที่ตามมาติดๆ กลับมาทรงตัวหลังไถลข้ามหินขอบทางได้ Daniel Solis (สหรัฐอเมริกา) ที่เริ่มออกตัวเป็นที่ 11 ใช้โอกาสจากความวุ่นวาย บีบ Rodríguez เข้าด้านในที่โค้ง 9 และโดดขึ้นจากที่ 8 เป็นที่ 4 หลังเวลาผ่านไปเพียงครึ่งรอบสนาม

ขณะเดียวกัน Latkovski ยังคงนำอยู่อย่างสบายๆ ตามด้วย Baptiste Beauvoi จากฝรั่งเศส Nicolás Rubilar จากชิลีอยู่ในอันดับที่ 3 ขณะที่ทั้งสามลอยลำแล้ว การต่อสู้สำหรับที่ 4 ถึงที่ 7 ก็ดำเนินไปอย่างเข้มข้น Solis, Rodríguez และ Portilla แย่งชิงตำแหน่งกันอย่างดุเดือด ทำให้นักแข่งอันดับท้ายๆ มีโอกาสกลับเข้าสู่การแข่งขัน ในรอบสนามที่ 5 Valerio Gallo จากอิตาลีดวลกับ Portilla อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน และขึ้นแซงนักแข่งจากชิลีไปสู่อันดับ 6 ได้สำเร็จ ในรอบ 6 Gallo แซง Rodríguez ขึ้นเป็นที่ 5 ได้ แต่การต่อสู้ยังอีกยาวไกล และ Rodríguez ก็แย่งอันดับที่ 5 คืนมาได้ในช่วงรอบสนามสุดท้าย

แต่ท้ายที่สุด Latkovski, Beauvois และ Rubilar ก็เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1, 2 และ 3 และได้บัตรผ่านเข้าอีเวนต์ในวันอาทิตย์ไปโดยปริยาย ตอนนี้ชะตากรรมของ Solis, Rodríguez และ Gallo ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันในรอบแก้ตัว ขณะที่ Ryota Kokubun กลายเป็นแชมป์ World Tour 2019 คนที่สองที่ต้องกลับบ้านในวันนี้

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Cody Nikola Latkovski Nik_Makozi 14:04.780
2 Baptiste Beauvois Veloce_TsuTsu +02.490
3 Nicolás Rubilar FT_NicoR +04.439
4 Daniel Solis CAR_Lamb +11.985
5 Manuel Rodríguez TRL_MANURODRY +14.315
6 Valerio Gallo JIM_BRacer26 +14.663
7 Fabian Portilla CAR_McQueen +14.910
8 Mark Pinnell Turismo-lester +16.053
9 Pierre Lenoir RC_Snake91 +16.144
10 Markus Kononen maatu79 +17.807
11 Simon Bishop sidawg2 +23.783
12 Ryota Kokubun Akagi_1942mi +23.828

Nations Cup วันที่ 1 รอบรองสุดท้ายกลุ่ม C

หลังทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือก Jonathan Wong จากฮ่องกงออกตัวในโพลโพสิชั่นสำหรับการแข่งรอบรองสุดท้ายครั้งที่ 3 ของวัน ซึ่งมีขึ้นที่สนาม ออโตโดรม ลาโก้ มัจจอเร - GP สุดยาก ร่วมกับนักแข่งที่ควบคุม Pagani Zonda R อันทรงพลัง Takuma Miyazono หนึ่งในขวัญใจผู้ชมจากญี่ปุ่นเข้าเส้นชัยเป็นที่ 2 ตามโดย Patrick Blazsán จากฮังการี

ทันทีที่โบกธงเขียวสำหรับการแข่งขัน 8 รอบสนาม Andrew Brooks จากแคนาดาเข้าโค้งแรกกว้างๆ และเขี่ย Coque Lopez ที่ออกตัวเป็นที่ 5 ออกนอกสนาม ทำให้เขาตกไปอยู่ที่ 8 ขณะที่ Brooks เองก็ตามหลังคนอื่นๆ โดยห่างจากที่ 1 กว่า 10 วินาที ปิดฉากความหวังที่จะคว้าแชมป์ของเขาในปีนี้

ขณะเดียวกัน Miyazono แซงหน้า Wong ที่นำอยู่ และขับผ่านโค้ง 5 ได้อย่างนุ่มนวล ทำให้เขาขึ้นเป็นจ่าฝูง แต่ Wong ก็ตั้งใจจะดึงเขากลับลงมาโดยการขับจี้กันชนหลังของนักแข่งชาวญี่ปุ่นไปตลอดการแข่งขัน

Adam Wilk จากออสเตรเลียที่ออกตัวเป็นที่ 12 แซงคู่แข่งไปได้ 5 คน ขึ้นมาเป็นที่ 7 ภายในเวลา 2 รอบสนาม และตั้งใจจะทำให้ดีกว่านี้ แต่อีก 2 รอบสนามต่อมา López ที่พุ่งมาอย่างแรงก็ฟื้นคืนชีพราวกับนกฟีนิกซ์มาแย่งอันดับ 7 ไปจาก Wilk สองรอบสนามถัดไป ลำดับก่อนหลังยังคงไม่เปลี่ยน โดยมี Miyazono เป็นจ่าฝูง มี Wong ตามมาติดๆ ตามด้วย Blazsán และ Salvatore Maraglino (อิตาลี)

รอบสนามที่ 6 เป็นการดวลกันระหว่าง Blazsán และ Maraglino เมื่อทั้งคู่ต่างต่อสู้แย่งตำแหน่งที่ 3 ที่สำคัญยิ่ง ซึ่งจะทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบคัดเลือก 12 อันดับแรกในวันอาทิตย์และการแข่งขันนัดต่อๆ มา แต่ Blazsán ก็ต้านไว้ได้สำเร็จ ขณะที่รถวิ่งที่ความเร็ว 270 กม./ชม ในช่วงทางตรงหน้าสนาม Wong พยายามเป็นครั้งสุดท้ายในการชิงตำแหน่งจ่าฝูงคืนมาจาก Miyazono ในรอบสนามที่ 7 และ 8 แต่เห็นได้ชัดว่าเขาระมัดระวังมากที่จะไม่ทำพลาด เพื่อป้องกันการต้องออกจากการแข่งขัน (จะโทษเขาก็ไม่ได้ หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Fraga ก่อนหน้านี้)

Wong จี้ต่อไป สร้างแรงกดดันให้แก่นักแข่งชาวญี่ปุ่น โดยที่ไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ Miyazono ยังคงนิ่งและไม่เสียสมาธิ จนกระทั่งเข้าเส้นชัยได้อย่างไร้ที่ติในที่สุด Wong เข้าเส้นชัยเป็นที่ 2 ตามด้วย Blazsán นักแข่งทั้งสามได้เข้าสู่รอบต่อไปแล้วเป็นที่แน่นอน ในส่วนของที่ 4 ถึง 7 ตอนนี้ Mathew Simmons (ออสเตรเลีย), Wilk และ López ต้องสู้กันเพื่อเอาตัวรอดในรอบแก้ตัว

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Takuma Miyazono Kerokkuma_ej20 15:12.296
2 Jonathan Wong CAR_Saika +00.566
3 Patrik Blazsán Williams_Fuvaros +01.518
4 Salvatore Maraglino JIM_Pirata666_ +02.124
5 Mathew Simmons MINT_Matt +07.707
6 Adam Wilk Adam_2167 +12.241
7 Coque López Williams_Coque14 +13.105
8 Alonso Regalado PX7-Jara +13.505
9 Ben Chou Gmotor_SBen +14.841
10 Anthony Felix FT_Ant +16.666
11 Ádám Tápai TRL_ADAM18 +17.950
12 Andrew Brooks PX7-Deafsun +29.616

Nations Cup วันที่ 1 รอบแก้ตัว

รอบแก้ตัวคือโอกาสสุดท้ายให้คนที่พลาดตำแหน่งในการแข่งสามครั้งแรกได้ไปเล่นในการแข่งวันอาทิตย์ ทุกคนที่ไม่ได้เข้าเส้นชัย 3 อันดับแรกในรอบนี้จะต้องกลับบ้านไปก่อน พร้อมกับนักแข่งอีก 9 คน

Daniel Solis ชาวอเมริกันและรถแรลลี่ Subaru WRX ได้อยู่ที่หัวแถวในการแข่ง 9 รอบสนามใน WeatherTech Raceway ลากูน่า เซค่า ซึ่งเพิ่งเข้าร่วมรายการ Gran Turismo Sport นักแข่งใช้รถแข่งแรลลี่ขับเคลื่อน 4 ล้อคัน Gr.B โปรด การแข่งขันเริ่มด้วย Mitsubishi Lancer Evo ของ Adam Suswillo แห่งสหราชอาณาจักรพยายามมากที่จะแย่งตำแหน่งจ่าฝูงจาก Solis มาให้ได้ แต่ Subaru ของ Solis ก็ปกป้องไลน์การขับของตัวเองโดยการอยู่เลนในสำหรับโค้ง 3 และยังคงรักษาอันดับ 1 เอาไว้ได้ ในรอบสนามที่ 2 ในที่สุด Suswillo ก็แซงหน้า Solis ได้ที่โค้ง 4 ก่อนจะต้องเสียตำแหน่งให้นักแข่งชาวอเมริกันทันที... นี่เป็นการดวลครั้งยิ่งใหญ่ เพราะต่างคนต่างดูจะยังไม่พร้อมกลับบ้าน ในช่วงท้ายรอบ 2 ดูเหมือนจะเป็นการแข่งของรถแค่ 4 คัน โดยประกอบไปด้วย Solis, Suswillo, Manuel Rodrgíuez จากสเปนกับรถ Acura NSX ตามด้วย Salvatore Maraglino ชาวอิตาลีที่ขับ Nissan GT-R ที่เป็นผู้นำในการแข่งขันของรถ 12 คันผ่านสนาม 12 โค้งที่มีโค้ง Corkscrew รูปตัวเอสอันโด่งดัง

สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงในรอบสนามที่ 3 เมื่อ Suswillo ประเมินการเบรกที่โค้งแฮร์พิน 2 ผิด ทำให้ Rodríguez กับ Maraglino แซงหน้าไปได้ นักแข่งชาวอังกฤษจึงตกไปอยู่ที่ 4 ในทันที ในรอบสนามถัดไป Rodríguez ได้รับบทลงโทษ 2 วินาทีสำหรับการสัมผัสรถคันอื่น ทำให้เขาตกไปอยู่อันดับ 6 ในเวลาเดียวกัน Coque López กับรถแรลลี่ Ford Focus ก็ไต่อันดับมาเรื่อยๆ จากอันดับออกตัวรั้งท้ายเป็นที่ 12 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 เมื่อจบรอบสนามที่ 4 เขาทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในการขยับจากที่โหล่ขึ้นมาอยู่ใน 3 อันดับแรกที่จะได้ไปแข่งต่อในวันอาทิตย์...

การแข่งขันเพื่อแย่งชิงความเป็นที่ 1 ยังเดินหน้าต่อไปในรอบสนามที่ 5 และ 6 เมื่อ Maraglino ไล่ล่า Solis อย่างต่อเนื่อง โดยโผล่มาให้เห็นในกระจกมองหลังของเขาในทุกส่วนของสนามแข่ง ทำให้นักแข่งชาวอเมริกันเริ่มออกอาการ ทว่าหายนะบังเกิดเมื่อ Subaru สีน้ำเงินได้รับบทลงโทษครึ่งวินาทีในรอบสนามที่ 6 แต่นักแข่งชาวอเมริกันก็ต้านทานนักแข่งชาวอิตาลีที่ดุดันและรักษาตำแหน่งนำเอาไว้ได้ ในรอบสนามต่อมา López เล่นบทฟีนิกซ์อีกครั้ง โดยฟื้นจากขี้เถ้ามาแซง Suswillo ผู้ได้ที่ 3 มาจาก Rodríguez หลังจากที่นักแข่งชาวสเปนถูกลงโทษ 2 วินาทีจากการปะทะกับรถคันอื่น López นักแข่งชาวสเปนอีกคนคว้าอันดับ 3 ที่สำคัญยิ่งเอาไว้ได้ ความปรารถนาและดึงดันของ "Lopex" ที่ปฏิเสธที่จะถูกปฏิเสธ และโดดขึ้นมา 9 อันดับใน 9 รอบสนามนั้นช่างน่าประทับใจ

เมื่อธงตาหมากรุกโบกสะบัด Solis ก็แสดงทักษะและความสม่ำเสมออย่างยอดเยี่ยมจากโพลโพสิชั่นสู่อันดับ 1 โดยต้านทาน Maraglino กับ Lopez ที่เข้าเส้นชัยเป็นที่ 2 และ 3 ตามลำดับเอาไว้ได้ ทำให้นักแข่งทั้งสามผ่านเข้าสู่การแข่งตัดสินผู้ชนะครั้งใหญ่ในวันอาทิตย์

López ผู้ที่เหมาะสมกับการได้รับเลือกเป็น Michelin Driver of the Day กล่าวในภายหลังว่า “มันยากครับ แต่ผมรู้ว่าผมต้องใจเย็น Ford Focus เป็นรถที่ดีมาก และขนาดออกตัวเป็นที่โหล่ ผมก็รู้ว่าผมมีโอกาส เพราะเราแข่งกันที่สนามลากูน่า เซค่า ผมรู้ว่าต้องไม่ขับเบนออกด้านนอกเวลาผ่านโค้ง และหากผมขับได้อย่างสม่ำเสมอ ผมก็มีโอกาส ผมอยากชนะการแข่งครั้งนี้ แต่แม้จะได้ที่ 3 อย่างน้อยผมก็จะได้ไปแข่งต่อในวันอาทิตย์ ผมดีใจที่การแข่งขันมีขึ้นที่ลากูน่า เซค่า เพราะนี่เป็นสนามแข่งที่สุดยอด เป็นหนึ่งในที่ที่ผมชอบที่สุด ตั้งแต่ผมดูอีเวนต์ MotoGP ที่นี่ และผมก็อยากขอบคุณทุกคนที่ทำให้ผมได้เป็นหนึ่งในคนที่ได้มาแข่งที่สนามนี้ใน Gran Turismo Sport”

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Daniel Solis CAR_Lamb 14:03.857
2 Salvatore Maraglino JIM_Pirata666_ +00.559
3 Coque López Williams_Coque14 +01.039
4 Adam Suswillo Williams_Adam41 +02.278
5 Tatsuya Sugawara blackbeauty-79 +02.877
6 Valerio Gallo JIM_BRacer26 +02.997
7 Adam Wilk Adam_2167 +03.530
8 Manuel Rodríguez TRL_MANURODRY +04.199
9 Fabian Portilla CAR_McQueen +07.045
10 Mathew Simmons MINT_Matt +08.365
11 Rick Kevelham HRG_RK23 +09.160
12 Benjamin Bader ROH_Benito +12.250

กลับสู่รายการ