รายงานการแข่งขัน

แผนการแข่งขันที่ชัดเจนท่ามกลางอากาศไร้ปรานีจะเป็นตัวตัดสินผู้ชนะของปีนี้

Manufacturers Cup ของ Gran Turismo World Series 2022 รอบ World Finals

Manufacturers Cup ของ Gran Turismo World Series 2022 ที่ทุกคนต่างรอคอยได้จัดขึ้นเพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์ของปีในวันนี้แล้ว ณ โรงแรม Monte Carlo Bay Hotel ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานรอบ World Finals นักแข่งทั้ง 36 จากทั่วโลกได้มารวมตัวเพื่อประชันความเร็วกันให้บริษัทผู้ผลิต 12 ทีม โดยแต่ละทีมจะมีนักแข่งสามคน ซึ่งแต่ละคนนั้นมาจากคนละภูมิภาคกัน และการแข่งขันกำหนดให้แต่ละคนต้องสัมผัสพวงมาลัยอย่างน้อยหนึ่งแล็ป ดังนั้น ทีมเวิร์กจึงเป็นปัจจัยสำคัญในรอบสุดท้ายของปีนี้

รอบ World Finals ของ Manufacturers Cup จะประกอบด้วยสองการแข่งขัน และคะแนนในรอบนี้ก็จะมากกว่าปกติสองเท่าเพื่อให้คว้าสิทธิไปรอบชิงชนะเลิศได้ ดังนั้น เมื่อคำนวณแล้วจึงล้วนยังมีโอกาสชนะกันแทบทุกทีม Toyota กับ Subaru นั้นมีคะแนนนำอยู่ในการแข่งชิงแชมป์วันนี้ (ทีมละ 10 คะแนน) ส่วน Mercedes-AMG นั้นอยู่ที่ 3 และ Mazda อยู่ที่ 4 ด้วย 7 และ 5 คะแนนตามลำดับ

การแข่งขันที่ 1: ดีป ฟอเรสต์ เรซเวย์ ย้อนทาง

รอบแรกของวันเริ่มต้นด้วยการแข่งขันกัน 20 แล็ปที่สนามดีป ฟอเรสต์ เรซเวย์อันโด่งดัง แต่ผู้จัดงานโยนลูกยากให้ทุกคนด้วยการให้แข่งขันแบบวิ่งย้อนทาง การแข่งขันนี้มีข้อกำหนดว่าต้องใช้ทั้งเนื้อแข็ง เนื้อปานกลาง และเนื้ออ่อน รวมทั้งต้องมีการเปลี่ยนตัวนักแข่งสองครั้ง ดังนั้น จึงต้องมีการเข้าพิตอย่างน้อยที่สุดสองครั้ง

ผู้ที่อยู่ ณ ตำแหน่งโพลโพซิชันของการแข่งขันที่ 1 ก็คือทีม Porsche ที่ยังทำคะแนนไม่ได้สักคะแนนตลอดรายการ แต่ก็ติดอาวุธมาเป็นสามนักแข่งที่มากความสามารถอย่างเหลือเชื่อ ที่อยู่แถวหน้าด้วยกันกับ José Serrano (TDG_JOSETE) นักแข่งตัวหลักใน 911 RSR ก็คือ Ryota Kokubun (Akagi_1942mi) ใน Toyota GR Racing Supra Concept ส่วนแถวต่อมาก็คือ Genesis X GR3 ที่มี Nicolás Romero (ERM_NicoRD) เป็นผู้ขับ และ Beetle Gr.3 ของทีม Volkswagen ที่ขับโดย Thomas Labouteley (Aphel-ion) ในส่วนของยางนั้น ทั้งสนามเริ่มด้วยยางเนื้ออ่อนและยางเนื้อแข็ง ด้วยตั้งใจจะเก็บยางเนื้ออ่อนไว้ใช้ในตอนกลางหรือตอนท้ายการแข่งขัน

หลังออกตัวแบบโรลลิ่งกันอย่างเรียบร้อย แค่โค้งที่ 1 ก็เริ่มมีการออกลีลาให้ให้เห็นเมื่อเริ่มมีการชิงตำแหน่งกันในโค้งแฮร์พินแคบๆ Genesis หลุดออกนอกสนามไปหลังจากโดน Mercedes-AMG ของ Lucas Bonelli (TGT_BONELLI) สะกิดเอา ทำให้ผู้ผลิตสัญชาติเกาหลีตกไปอยู่ที่ 8 ในขณะที่ Bonelli นั้นแซง Subaru ขึ้นไปเป็นที่ 4 ทางด้าน Porsche กับ Toyota นั้นเริ่มทิ้งห่างกันเองและจากฝูงไปเล็กน้อย ส่วนศึกชิงที่ 3 กันอย่างเข้มข้นก็ตึงเครียดขึ้นระหว่าง Volkswagen, Mercedes-AMG กับ Subaru ซึ่ง Bonelli ก็ชิงไปได้ในแล็ปที่ 2 แต่ตำแหน่งนั้นก็อยู่ไม่นาน เพราะถูกลงโทษ 2.0 วินาทีจากการเฉี่ยวชนกับ Genesis ในรอบแรก ซึ่งทำให้เขาตกไปสองอันดับเลยทีเดียว

เรื่องหนึ่งที่ชัดเจนมาแล้วคือสนามนี้นั้นไม่เหมาะกับรถแข่งบางคัน ซึ่งนั่นรวมถึง Subaru ที่พอถึงทางตรงแล้วต้องประสบความยากลำบากในการไล่ตามรถที่แรงกว่าให้ทัน ส่วนที่กดมิดด้ามในสองแล็ปสุดท้ายก็คือ Genesis ที่แซงไปสองคันพร้อมหมายตาอันดับที่ 5 ของ Mercedes-AMG GT3 ในมือ Bonelli เพื่อเอาคืน และผู้ที่มีความเคลื่อนไหวมากสุดนับแต่แข่งรอบนี้กันมาก็คือ Nissan GT-R NISMO ที่ Hiroshi Okumoto (HIROGRAND_1009) เป็นผู้ขับ โดยขึ้นมาอยู่ที่ 7 หลังจากออกตัวในอันดับที่ 11

การเปลี่ยนยางครั้งแรกเกิดขึ้นในแล็ปที่ 6 เมื่อทีมส่วนใหญ่เริ่มเข้าพิตกัน แผนการแข่งขันนั้นปรากฏออกมาในหลายรูปแบบ เพราะ Porsche, Volkswageและ Subaru หันไปใช้ยางเนื้ออ่อนที่ทำความเร็วได้ดีกว่า ส่วน Toyota กับ Mercedes-AMG ใช้ยางเนื้อปานกลางที่วิ่งได้นานกว่า ความแตกต่างของแผนเริ่มส่งผลอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อ Volkswagen ที่ตอนนี้ Seiya Suzuki (V1_CRV-KRT86) เป็นผู้ขับขึ้นแซง Igor Fraga (IOF_RACING17) ใน Supra ไปที่ท้ายทางตรงด้านหลัง ในขณะที่ Subaru ของ Kylian Drumont (PRiMA_Kylian19) กระแทก Supra พ้นทางไปในสองโค้งต่อมา ในขณะเดียวกัน Angel Inostroza (YASHEAT_Loyrot) ที่อยู่ใน Porsche ก็เริ่มนำห่างออกไป 4.0 วินาที

ส่วนที่อันดับท้ายสุดของการแข่งนั้นก็มีศึกขิงตำแหน่งกันด้วย โดย Ethan Lim (VQS_Ethan) ที่ขับ McLaren 650 S GT3 สะกิด Nissan GT-R ของf Mateo Estevez (VQS_Hyperz) ออกนอกสนามเพื่อชิงที่ 7 แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากถูกประเมินโทษแล้ว เขาก็ต้องมอบตำแหน่งคืนไป จากนั้น หายนะก็ฟาดเปรี้ยงใส่ทีม Mazda เมื่อต้องประสบปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้ต้องใจสลายเพราะ DNF (Did Not Finish แข่งไม่จบ)
เมื่อเหลืออีกแปดแล็ป Toyota กับ Mercedes-AMG ก็เข้าพิตครั้งสุดท้ายเพื่อเปลี่ยนไปใช้ยาง Michelin เนื้ออ่อนเพื่อกดมิดสู่เส้นชัย กลุ่มจ่าฝูงที่ประกอบด้วย Porsche, Volkswagen และ Subaru เข้าพิตกันตอนแล็ปที่ 14 ด้วยหวังว่ายางเนื้อปานกลางของตัวเองจะป้องกันยาง Michelin ที่ทำความเร็วดีกว่าได้

Takuma Sasaki (LG-TakuAn_) ที่อยู่ใน 911 กลับสู่สนามแข่งโดยนำอยู่เกือบ 6.0 วินาทีโดยต้องแข่งอีกห้าแล็ป ซึ่งหมายความถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาก็กำลังอยู่ในตำแหน่งที่จะคว้าชัยชนะครั้งแรกในฤดูกาลมาให้ Porsche นั่นเอง ส่วน Daniel Solis (PRiMA_Lamb) ใน Subaru นั้นโชคไม่ดีนัก เพราะ Toyota Supra ที่ Nikita Moysov (ERM_Nick) ขับได้ขึ้นแซงชิงที่ 3 ไป และในแล็ปต่อมา Mercedes-AMG ก็แซง Subaru ไปด้วย

ในสามแล็ปสุดท้ายนั้น Toyota ตามติด Volkswagen ที่ขับโดย Roberto Sternberg (Energy_Amarok_23) เพื่อหาโอกาสแซงในทันทีที่ทำได้ และเมื่อถึงแล็ปที่ 18 Toyota ก็ขึ้นแซง Beetle และตามด้วย Mercedes-AMG ในแล็ปต่อมา ทำให้เขี่ย VW ตกแท่นรับรางวัลไป

ในที่สุด Porsche ก็ลอยลำเข้าเส้นชัยไปเป็นที่หนึ่ง ได้คว้าชัยชนะกับ 12 คะแนนไป ทำให้ทีมขยับจากอันดับสุดท้ายมาอยู่ที่ 4 ของการแข่งชิงแชมป์ ส่วน Toyota นั้นยังคงเป็นผู้นำในรายการต่อไปด้วยการคว้า 10 คะแนนจากการได้ที่ 2 ส่วน Mercedes-AMG ยังคงอยู่ที่ 3

Angel Inostroza นักแข่งของทีม Porsche กล่าวหลังการแข่งขันว่า “หลังจากแข่งแล้วผมรู้สึกว่าดีมากเหลือเชื่อนะครับ คือตอนเริ่มที่ Toyota ไล่จี้เรามานี่ผมแอบกังวลอยู่หน่อยๆ เพราะ Supra ทำความเร็วสูงสุดได้ยอดมาก ส่วน José กับ Takuma นักแข่งอายุ 18 ปีของเราก็เก่งมากๆ เลย เราทำผลงานกันยอดเยี่ยมทุกคนเลยครับ”

อันดับ ผู้ผลิต / นักแข่ง เวลา
1 Porsche Angel Inostroza / José Serrano / Takuma Sasaki 29:06.106
2 Toyota Nikita Moysov / Ryota Kokubun / Igor Fraga + 03.608
3 Mercedes-AMG Lucas Bonelli / Baptiste Beauvois / Syunsuke Tsuboi + 15.219
4 Volkswagen Seiya Suzuki / Roberto Sternberg / Thomas Labouteley + 15.500
5 Subaru Kylian Drumont / Daniel Solis / Takuma Miyazono + 22.828
6 Genesis Yuito Sasaki / Nicolas Romero / Dean Heldt + 24.754
7 Honda Valerio Gallo / João Pessôa / Matthew McEwen + 36.502
8 Lexus Quinten Jehoul / Donovan Parker / Kanata Kawakami + 37.106
9 McLaren Konstantinos Konstantinou / Hayato Imazato / Ethan Lim + 45.330
10 BMW José Brea / Yuki Kodaka / Randall Haywood + 48.513
11 Nissan Mateo Estevez / Mehdi Hafidi / Hiroshi Okumoto +1:06.052
12 Mazda Soki Nabetani / Giorgio Mangano / Andrew Brooks DNF

รอบชิงชนะเลิศ: เซอร์กิต เดอ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์

การแข่งขันครั้งสุดท้ายของรายการนี้จะวัดกันที่การสึกหรอ พยากรณ์อากาศบอกว่าจะมีฝนตกตลอดการแข่งขันมาราธอน 30 แล็ปรอบสนามเซอร์กิต เดอ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ ดังนั้น ทีมต่างๆ จึงจำเป็นต้องปรับแผนกันใหม่ไปตามนั้น ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งโพลโพซิชันก็คือ Porsche 911 RSR ที่มี Takuma Sasaki เป็นผู้ขับเนื่องจากเป็นผู้ชนะในรอบที่แล้ว ตามมาด้วย Toyota GR Supra Racing Concept ที่มี Igor Fraga นั่งอยู่หลังพวงมาลัยเป็นอันดับที่ 2 ส่วนแถวที่สองจับจองโดย Mercedes-AMG GT3 กับ Lucas Bonelli โดยต่อแถวกับ Volkswagen Beetle Gr.3 ของ Seiya Suzuki

เมื่อไฟเขียวสาดประกายในละอองแสงเป็นสัญญาณที่บอกให้ทีม Toyota เริ่มการแข่งขันด้วยยางสำหรับตอนฝนตก ซึ่งนั่นก็หมายความว่า สมาชิกทีมได้คาดการณ์เอาไว้ว่าฝนจะเทลงมาอย่างหนักในแล็ปแรกๆ ของการแข่งขัน แต่รถคันอื่นไม่คิดแบบนั้น เพราะเลือกเล่นกับแบบปกติธรรมดาด้วยยางเนื้อปานกลาง

แผนของ Toyota ดูจะย้อนมากัดกินตัวเอง เพราะจนแล็ปที่ 2 เริ่มต้นแล้วฝนห่าใหญ่ก็ยังไม่เทลงมา และ Fraga ก็พบว่า Supra ของตัวเองทำความเร็วตามคนอื่นไม่ทันเสียแล้ว ตอนนี้ Porsche 911 RSR นำห่าง Supra ไปแล้ว 2.0 วินาที โดยมี Mercedes-AMG เกาะติดอยู่แทบหายใจรถกันชนท้าย และ AMG GT3 ก็ขึ้นแซง Supra ไปได้ในแล็ปที่ 3 ส่วน Daniel Solis ที่อยู่ใน Subaru BRZ ซึ่งออกสตาร์ทเป็นอันดับที่ 5 ก็จ่อติด Supra ซึ่งอยู่อันดับที่ 4 นักแข่งอเมริกันตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่โค้งเลอส์ก็อมบ์ส (โค้งที่ 7, 8 และ 9) เพื่อแซง Toyota แล้วส่ง BRZ ขึ้นไปเป็นที่ 3

Fraga โฉบเข้าพิตในแล็ปที่ 7 เพื่อเปลี่ยนยางสำหรับฝนตกเป็นไปยาง Michelin เนื้อแข็ง แม้แผนแรกของทีมจะกลายเป้นปัญหา แต่นักแข่งชาวบราซิลก็ยังรักษา Toyota ให้อยู่ในการแข่งขันได้อย่างน่าชื่นชม และตอนนี้ก็เป็นเวลาของ Nikita Moysov ที่จะทำเวลาในสนามแล้ว แล็ปต่อมาหลายทีมเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนตัวนักแข่งตามข้อกำหนด และต่างก็เปลี่ยนยางเป็นยางเนื้อแข็งด้วยเช่นกัน

เหล่าผู้นำในการแข่งขันที่ประกอบด้วย Porsche, Mercedes-AMG และ Subaru เข้าพิตกันครั้งแรกในแล็ปที่ 9 และจะพาเราไปพบกับจุดพลิกผันอันต้องถกเถียงกันว่าอาจน่าตื่นตะลึงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการ Andrew Brooks ที่พยายามจะ Volkswagen Beetle ในมือ Thomas Labouteley เสียการควบคุม Mazda RX-Vision บนพื้นลื่นจนรถหมุนคว้างไปหกรอบครึ่ง (นั่นมัน 2,340 องศาเลยนะ!) ก่อนจะไปชนแบริเออร์ยาง แถมเขายังกวาดเอา Beetle ให้หมุนฟาดแบริเออร์ไปด้วยกันในการนั้นด้วย

ท้องฟ้าใสกระจ่าง ทีม Toyota รีบแก้ไขข้อผิดพลาดในแผนการด้วยการทำความเร็วต่อเนื่อง จนในที่สุด Supra ก็ขึ้นมาเป็นที่ 2 ณ ช่วงทางตรงเคมเมลของแล็ปที่ 11 บัดนี้การแข่งเหลืออีกสองในสาม Toyota ยังถูก Porsche 911 RSR ของ Angel Inostroza นำอยู่ประมาณ 6.5 วินาที

แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อ Inostroza ขับผิดพลาดแบบที่ไม่ใช่จะพบได้บ่อยนัก เขาขับ 911 ข้ามหินขอบทางลื่นๆ ไปจนรถหมุนคว้างไปตามพื้นกรวด ทำให้ตกจากการนำไปอยู่ที่ 4 ในชั่วพริบตา และก็เป็น Toyota ที่ฉวยความได้เปรียบจากความผิดพลาดนี้ไปเต็มที่ด้วยการขึ้นเป็นผู้นำในการแข่งขัน โดยมี Genesis X ที่ขับโดย Yuito Sasaki (TRUST-T78-33D) ตามหลังมา เมื่อมาถึงครึ่งทางของการแข่งขัน ลำดับในสนามก็เป็นดังต่อไปนี้ Toyota, Genesis, Nissan, Porsche, Mercedes-AMG และ Subaru

พอถึงแล็ปที่ 17 ท้องฟ้าก็มืดลงอีกครั้ง ในขณะที่ผู้นำในการแข่งขันเปลี่ยนมาใช้ยางเนื้อปานกลางตอนจบแล็ป 19 ด้วยหวังว่าสนามจะเปียกชื้นเท่าที่พบตอนเริ่มต้นการแข่งขัน Mercedes-AMG, Subaru และ Volkswagen กลับคาดว่าฝนห่าใหญ่จะเทลงมา เพราะต่างก็เปลี่ยนไปใช้ยางสำหรับพื้นเปียกกันหมด

และเมื่อฝนหนาเม็ด Kylian Drumont ใน Subaru ก็แซง Baptiste Beauvois ใน Mercedes-AMG ขึ้นไปเป็นที่ 5 ในแล็ปที่ 21 เมื่อฝนกระหน่ำสาย ทั้งสองคันก็เริ่มเฉือนช่องว่างที่จ่าฝูงเปิดทิ้งไว้ ทิ้งไว้เพียงน้ำสีขาวที่สาดละอองกระจายในการนั้น พวกเขาทำความเร็วได้ดีกว่าคู่แข่งที่ใช้ยางเนื้อปานกลางอยู่แล็ปละสามวินาที ดังนั้น ถ้าฝันยังตกอยู่แบบนี้ ไม่เร็วก็ช้า BRZ กับ AMG GT3 จะไล่ตามจ่าฝูงทันแน่

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ Subaru ขึ้นไปเป็นที่ 3 ในแล็ปที่ 24 โดยเบื้องหน้ามีเพียง Toyota Supra กับ Genesis X ที่ห่างไปเพียงเกือบ 3.5 วินาทีเท่านั้น เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้านิ่ง Toyota ก็ตัดสินใจวัดดวงและยัดโชคชะตาไว้ในกำมือตัวเอง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการเข้าพิตเป็นหนที่สามในการแข่งขัน โดยยอมเสียเวลาประมาณ 25 วินาทีไปกับการเปลี่ยนเป็นยางสำหรับฝนตก Fraga กลับสู่ที่นั่งคนขับแล้วคืนสู่สนามไปอยู่ในอันดับที่ 6 เขายังเหลือเวลาให้พาตัวเองกลับเข้าสู่การแข่งขันอีกห้าแล็ป และถ้าใครจะทำแบบนั้นได้ ก็มีแต่แชมป์ Nations Cup ปี 2018 เท่านั้น

Beauvois ลาก Mercedes-AMG ของตัวเองแซงทั้ง Subaru และ Genesis ขึ้นไปนำได้ในโค้งที่ 10 ของแล็ปที่ 25 แต่ก็เสียการควบคุมไปตอนเข้าโค้งที่ 11 แล้วก็ไปลงเอยบนพื้นกรวด ซึ่งนั่นทำให้ AMG GT3 หลุดออกจากการแข่งขัน และส่งต่อตำแหน่งจ่าฝูงให้ Drumont กับ Subaru BRZ ไป

ที่ได้เห็นกันในอีกไม่กี่แล็ปที่เหลือก็คือการห้อตะบึงอันดุดันของ Fraga ใน Toyota เขารีบกลับมารั้งตำแหน่งในสนามด้วยการขึ้นไปเป็นที่ 2 หลังจากแซง José Serrano ใน Porsche 911 RSR ไปในแล็ปที่ 27 ตอนนี้ Subaru กับ Toyota ก็เข้าตำรามือใครยาวสาวได้สาวเอาแล้ว ได้เวลาวดูว่าใครจะเป็นแชมป์รายการนี้

แต่ก็น่าเสียดายสำหรับ Fraga เขาไม่อาจพา Toyota เข้าใกล้ Subaru ไปให้น้อยกว่า 1.5 วินาที เพราะ Drumont เข้าเส้นชัยและส่งมอบตำแหน่งแชมป์ Manufacturers Cup ปี 2022 ให้ Subaru ไปก่อน แม้ทั้งสองทีมจะมี 20 คะแนนเท่านั้น แต่ Subaru ก็ได้ตำแหน่งแชมป์ไปเพราะชนะรอบชิงชนะเลิศ นี่เป็นชัยชนะครั้งที่สองในรอบสามปีของ Subaru แล้ว

ต่อไปนี้คือความเห็นหลังการแข่งขันจากสมาชิกทีม Subaru

Kylian Drumont: “เราคุมฟ้าคุมฝนไม่ได้ครับ แต่มันก็แบบนี้แหละ พอฝนเริ่มตกอีก ผมก็อยากใช้ยางสำหรับพื้นเปียกไปตลอดเพราะคิดว่าเป็นแผนที่ดี แล้วผลก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ”

Takuma Miyazono: “ช่วงที่ผมขับรถผมหมุนจนเสียไป 10 วินาที ผมก็เลยทำอะไรไม่ได้ครับ แต่ก็ได้ Kylian กับ Daniel มาช่วยไว้ จนสุดท้ายผลก็ออกมาแบบนี้ ผมรู้สึกจริงๆ นะครับว่าเป็นเพราะพวกเขาเลย”

Daniel Solis: “การที่คราวนี้ได้เป็นแชมป์บนเวทีหลังจากที่ชนะตอนปี 2020 แต่ไม่ได้ขึ้นเวทีนี่เหลือเชื่อจริงๆ ครับ ตอนนั้นผมเคว้งไปหมด แต่ตอนนี้นี่ดีใจมากๆ เลยครับ!”

Manufacturers Cup ของ Gran Turismo World Series 2022 รอบ World Finals
ผล

อันดับ ผู้ผลิต / นักแข่ง เวลา
1 Subaru Kylian Drumont / Daniel Solis / Takuma Miyazono 1:15:00.641
2 Toyota Nikita Moysov / Ryota Kokubun / Igor Fraga + 02.596
3 Mercedes-AMG Lucas Bonelli / Baptiste Beauvois / Syunsuke Tsuboi + 03.817
4 Porsche Angel Inostroza / José Serrano / Takuma Sasaki + 04.805
5 Genesis Yuito Sasaki / Nicolas Romero / Dean Heldt + 26.645
6 Volkswagen Seiya Suzuki / Roberto Sternberg / Thomas Labouteley + 30.262
7 Mazda Soki Nabetani / Giorgio Mangano / Andrew Brooks + 32.445
8 Honda Valerio Gallo / João Pessôa / Matthew McEwen + 33.950
9 Lexus Quinten Jehoul / Donovan Parker / Kanata Kawakami + 34.162
10 McLaren Konstantinos Konstantinou / Hayato Imazato / Ethan Lim + 34.538
11 Nissan Mateo Estevez / Mehdi Hafidi / Hiroshi Okumoto + 39.084
12 BMW José Brea / Yuki Kodaka / Randall Haywood DNF