การทดสอบจับเวลารอบคัดเลือก

ผู้เข้ารอบสุดท้ายจะต้องแข่งจับเวลา 1 แล็ป

นักแข่งที่ได้อันดับเป็นเลขคี่ในการทดสอบจับเวลารอบคัดเลือกจะได้อยู่กลุ่ม A ส่วนนักแข่งที่ได้อันดับเป็นเลขคู่จะได้อยู่กลุ่ม B
โดยเวลารอบคัดเลือกจะเป็นตัวกำหนดตำแหน่ง ณ เส้นออกตัวรอบรองชนะเลิศของแต่ละกลุ่ม

รอบรองชนะเลิศกลุ่ม A และ B (ถ่ายทอดสด)

นักแข่งต้องร่วมแข่งหนึ่งการแข่งขันที่แยกเป็นกลุ่ม A และกลุ่ม B เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันแล้ว นักแข่งที่ได้สี่อันดับแรกของแต่ละกลุ่มจะได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศโดยอัตโนมัติ ส่วนอันดับที่ 5-10 จะได้แข่งอีกครั้งในรอบแก้ตัว

ทั้งนี้ ทั้งกลุ่ม A และกลุ่ม B จะได้แข่งกันบนสนามออริจินัลของแกรนทัวริสโม 7
เตรียมตัวพบกับการเปลี่ยนแปลงอันไม่หยุดนิ่งของอันดับ ณ เส้นออกตัวได้เลย เพราะนักแข่งแต่ละคนต่างต้องทุ่มแรงแซงคนอื่นบนฉากหลังซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่มีชีวิตชีวาแน่นอน

รอบแก้ตัว (ถ่ายทอดสด)

นักแข่งที่ได้อันดับ 5-10 จากกลุ่ม A และกลุ่ม B จะต้องมาแข่งขันกันหนึ่งครั้ง เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันแล้ว นักแข่งที่ได้สี่อันดับแรกก็จะได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

การแข่งขันนี้จะเกิดขึ้นที่เลกลูอิส สนามใหม่ทามกลางหิมะปกคลุมที่เพิ่มเข้ามาใน Spec II
เตรียมตัวพบกันแข่งขันที่แตกต่างไม่เหมือนใครได้เลย

รอบชิงชนะเลิศ (ถ่ายทอดสด)

นักแข่ง 12 คนสุดท้าย ซึ่งประกอบด้วยสี่อันดับแรกจากกลุ่ม A และกลุ่ม B ของรอบรองชนะเลิศ พร้อมด้วยสี่อันดับแรกจากรอบแก้ตัว จะมาแข่งกันในรอบชิงชนะเลิศ

และในเมื่อ Nations Cup มีรูปแบบใหม่คือแบบทีมไปแล้ว นี่จึงเป็นอีเวนต์เดียวใน World Finals ที่จะมีผู้ชนะคนเดียว
นักแข่งจะได้สอบความทรหดอดทนของตัวเองด้วยการพา Toyota GR010 ทะยานไปตามกาตาลุญญาเซอร์กิตที่ทั้งยาวและคดเดี่ยว

และผลของรอบชิงชนะเลิศจะถือเป็นผลตัดสินของ TGR GT Cup ปีนี้