กลับสู่รายการ

รายงานการแข่ง
กลยุทธ์การเข้าพิตอันกล้าท้าทายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างใน GR Supra GT Cup รอบไฟนอล!
รายการแข่งขัน Toyota GR Supra GT Cup ประจำปี 2020
18/12/2020

การแข่งขันในรอบสุดท้ายของ Toyota GR Supra GT Cup วันเมคเป็นรายการอุ่นเครื่องอันยอดเยี่ยมของ FIA Gran Turismo Championships 2020 World Finals ผู้เล่น 24 คนจากทั่วโลกได้มาร่วมกันแข่งขันผ่านทางสัญญาณวิดีโอ เพื่อดูว่าใครคือนักแข่งที่เร็วที่สุดในรถยนต์ Toyota GR Supra อันสุดแสนตื่นเต้นคันนี้ ผู้เข้าแข่งขันที่เป็นนักแข่งฝีมือดีที่สุด 22 คนจากการแข่งขันออนไลน์ กับอีก 2 คนที่เข้ารอบมาจากอีเวนต์ในระดับภูมิภาค ได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มกลุ่มละ 12 คน โดยที่นักแข่งแต่ละคนจะต้องแข่งขันกับคนอื่นเป็นคู่ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ นักแข่งที่ได้ 6 อันดับแรกจากแต่ละการแข่งขันจะได้รับแต้มและผ่านเข้าไปยังรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะให้แต้ม 2 เท่า และนักแข่งที่มีแต้มสูงที่สุดเมื่อจบวัน ก็จะเป็นแชมป์ GR Supra GT Cup ประจำปี 2020 ส่วนในการจัดลำดับการออกตัวนั้นจะใช้รอบทดสอบจับเวลาคัดเลือก 10 นาทีในแต่ละการแข่งขัน และ Jose Serrano จากประเทศสเปนก็คว้าลำดับออกตัวลำดับแรกในการแข่งขันครั้งแรกไปได้ ในขณะที่ Jin Nakamura นักแข่งหน้าใหม่ชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ออกตัวลำดับแรกของรองชนะเลิศกลุ่ม B

รอบรองชนะเลิศกลุ่ม A

สนามที่ใช้ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศก็คือฟูจิ อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์ในประเทศญี่ปุ่น โดยการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันแบบ 7 รอบสนาม และผู้เล่นทุกคนจะต้องใช้ยางเนื้อยางแข็งตลอดทั้งการแข่งขัน ซึ่งก็แปลว่าจะไม่จำเป็นต้องเข้าพิต และรถที่ต่อคิวออกตัวหลังจาก Jose Serrano (PR1_JOSETE) จากประเทศสเปนก็คือ Rick Kevelham (HRG_RK23) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ตามมาด้วย Valerio Gallo (Williams_BRacer) จากประเทศอิตาลี และ Coque López (Williams_Coque14) แชมป์ Nations Cup ภูมิภาคยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา

เมื่อรถ Supra ทั้ง 12 คันเคลื่อนขบวนออกตัวเป็นแถวเดียว นักแข่งทุกคนก็ใช้ความระมัดระวังมากเพราะเห็นได้ว่ารถแต่ละคันมีการส่ายในช่วงไม่กี่โค้งแรก ทั้งนี้เป็นเพราะยางเนื้อยางแข็งที่ยังมีอุณหภูมิเย็นอยู่ พอทุกคนเข้าสู่รอบสนามที่ 2 Gallo ก็มุ่งหน้าที่จะลุยอย่างเต็มที่ตั้งแต่เริ่มเลย เมื่อถึงโค้งที่ 1 แข่งชาวอิตาลีเบรกช้าและพุ่งเข้าสู่โค้งอยู่ข้างหน้า Kevelham ที่ 2 แต่ดูเหมือนว่าจะเข้าโค้งมาเร็วเกินไปและดริฟต์กว้างเกิน เลยทำให้แซงไม่ได้ แต่แม้กระนั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ในลำดับที่ 3 ก็ตาม Gallo ก็ยังเข้าชาร์จแบบไม่หยุดหย่อน

เมื่อมาถึงครึ่งทางของการแข่งขัน รถยนต์ 5 ลำดับแรกก็เริ่มทิ้งออกห่างจากขบวน โดยมี Serrano นำอยู่หัวแถว ตามมาด้วย Kevelham, Gallo, López และ Ádám Tápai (TRL_ADAM18) จากประเทศฮังการี ส่วนในขบวนที่เหลือที่ตามหลังอยู่เล็กน้อยก็มี Carlos Salazar (pcm_stj) จากประเทศโปรตุเกส ที่กำลังไล่ปิดทาง Giorgio Mangano (Williams_Gio) จากประเทศอิตาลี รายการต่อสู้ชิงลำดับที่ 6 อันแสนสำคัญ เพราะนี่คือลำดับสุดท้ายที่จะผ่านเข้าไปยังรอบชิงชนะเลิศได้

เมื่อมาถึงจุดแฮร์พินของโค้งที่ 6 ในรอบสนามที่ 4 Gallo ก็มุ่งมั่นที่จะยึดลำดับที่ 2 มาจาก Kevelham ให้ได้ และได้มุดเข้าวงในอย่างกล้าหาญ รถยนต์ทั้ง 2 คันตีคู่กันตลอดทั้งโค้ง เกือบจะแตะกันเมื่อขับผ่านยอดโค้ง แต่ว่า Kevelham สามารถรักษาเส้นการวิ่งของตนเองไว้ได้ และไม่ยอมให้นักแข่งชาวอิตาลีผู้ดุดันแซงผ่านขึ้นไป จากนั้น Mangano นักแข่งชาวอิตาลีอีกคนหนึ่งก็แซง Salazar ขึ้นมายึดลำดับที่ 6 ไปได้สำเร็จ

รอบสนามที่ 6 เป็นรอบสนามที่เต็มไปด้วยการช่วงชิงตำแหน่ง เพราะว่า Gallo กำลังมองหาทางที่จะแซง Kevelham อีกครั้งหนึ่งด้วยการเบรกอย่างช้าในการเข้าโค้งที่ 1 ถึงแม้ว่าจะขับขึ้นมาตีคู่ไปกับ Supra ของ Kevelham ก็ตาม แต่ว่านักแข่งชาวดัตช์ของเราก็สามารถรักษาความนิ่งเอาไว้ได้ ไม่ยอมปล่อยให้หลุดไปแม้แต่นิ้วเดียว จากนั้น เมื่อถึงรอบสนามสุดท้าย ก็เกิดจังหวะของการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่สุดตอนที่ Coque López พยายามที่จะจัดการ Gallo ให้ได้อย่างดุดัน หาทางแซงผ่านขึ้นไปจากเมืองนอกของโค้งที่ 15 แต่ว่า Gallo ไม่ยอมปล่อยให้ผ่านไปง่าย ๆ และทั้งคู่ก็ตีคู่กันไปในโค้งสุดท้าย แต่ López สามารถรักษาความเร็วที่สูงกว่าเมื่อเข้ามาสู่ช่วงทางตรงหลัก ทำให้สามารถแซงผ่าน Supra ของ Gallo ขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 3 ซึ่งสามารถรักษาไว้ได้จนกระทั่งเข้าเส้นชัย แต่กลับเป็น Jose Serrano นักแข่งชาวสเปนอีกคนหนึ่ง ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าคือผู้ที่มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดในช่วงขณะนั้น เพราะสามารถพารถผ่านธงหมากรุกเก็บ 12 แต้มไปได้สำเร็จ เข้าเส้นชัยก่อนหน้า Rick Kevelham ผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นที่ 2 เก็บ 10 แต้มที่มีความสำคัญไปได้

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Jose Serrano PR1_JOSETE 13:28.014
2 Rick Kevelham HRG_RK23 +00.275
3 Coque López Williams_Coque14 +01.559
4 Valerio Gallo Williams_BRacer +01.728
5 Ádám Tápai TRL_ADAM18 +01.799
6 Giorgio Mangano Williams_Gio +02.357
7 Carlos Salazar pcm_stj +03.653
8 Ar Muhammed Aleef LORAleefHamilton +05.433
9 Samet Özsahin GTTY_Samet +05.765
10 Sérgio Fonseca NWS_serfonseca +06.193
11 Luca Lazzari ExP_Luca +11.829
12 Abdulaziz Rayes R-a-y-e-s__ +18.516

รอบรองสุดท้ายกลุ่ม B

เช่นเดียวกันกับการแข่งรอบแรก การแข่งขันครั้งนี้ก็เป็นการแข่งขัน 7 รอบสนามในฟูจิ อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์ ที่ไม่มีการเปลี่ยนยาง แต่ความเซอร์ไพรส์ก็คือ Jin Nakamura (EDGE--RS) จากประเทศญี่ปุ่นผู้ที่ออกตัวเป็นลำดับแรก ที่สามารถสัมผัสแรงกดดันจากนักแข่งชื่อดังที่กำลังต่อหลังอยู่ได้ ซึ่งก็รวมถึง Lucas Bonelli (TGT_BONELLI) แชมป์ภูมิภาคอเมริกาเหนือกลางใต้จากประเทศบราซิล Tomoaki Yamanaka (yamado_racing38) ผู้ผ่านเข้ารอบจากภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย และ Takuma Miyazono (Kerrokuma_ej20) แชมป์รายการ "World Tour 2020 – ซิดนีย์"
และก็เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ มีการออกแอ็กชันกันตั้งแต่เริ่มด้วย Miyazono หาทางแซง Yamanaka เพื่อนร่วมชาติผ่านโค้งที่ 4 ที่เรียกกันว่า 100R จนรถเกือบหมุนกันตั้งแต่รอบสนามออกตัว และทั้งขบวนก็เกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น โดยมีระยะห่างระหว่างรถ 9 คันแรกเพียงแค่ 3 วินาทีเท่านั้น

ในรอบสนามที่ 2 ก็ได้เกิดการแซงครั้งแรกของการแข่งขันครั้งนี้ โดย Daniel Holland (MetalGear9493) ชาวออสเตรเลีย วิ่งผ่าน Mamoru Okada (APEX-M_Okada) นักแข่งชาวญี่ปุ่นขึ้นไปอยู่ที่ 6 จากนั้นอีกหลายรอบสนามต่อมา ลำดับการวิ่งก็แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดย Nakamura ที่ถือได้ว่าเป็นนักแข่งหน้าใหม่สามารถรักษาความนิ่งและกันทางผู้ท้าชิงที่เป็นนักแข่งเจนสนามไว้ได้

ในรอบสนามที่ 5 Okada ก็สามารถยึดลำดับที่ 6 คืนจาก Holland ได้สำเร็จที่โค้งโคคาโคล่า (โค้งที่ 3) ก่อนที่จะหมายมองไปยัง Supra ของ Cody Nikola Latkovski (Nik_Makozi) จากประเทศออสเตรเลียที่อยู่ในลำดับที่ 5 ส่วนในขณะเดียวกันนั้น Miyazono ก็ไล่เกาะแกะ Supra สีแดงของ Yamanaka ซึ่งหาทางยึดเอาที่ 3 มาให้ได้ แต่ว่า Yamanaka ก็สามารถรักษาไลน์การขับและตำแหน่งไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

เมื่อเริ่มรอบสนามที่ 7 Bonelli ก็เริ่มแหย่มาที่วงนอกของ Nakamura ผู้ที่ปิดประตูใส่หน้านักแข่งชาวบราซิลทันที และดูเหมือนว่านี่จะเป็นการจุดไฟให้ Bonelli เพราะเขาไล่ล่าเข้าหา Nakamura อีกครั้งผ่านทางช่วงแฮร์พินของโครงที่ 6 ที่ค่อนข้างยาก แต่คราวนี้ได้ใช้เส้นวิ่งที่ดูดุดันยิ่งกว่าเดิม และสามารถแซงไปได้สำเร็จ

จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงการปิดฉากที่เรียกได้ว่ามีความมันระดับหนังฮอลลีวูด เกิดความโกลาหลกันอย่างหนักที่ช่วงหัวขบวน เพราะ Nakamura เข้าโค้งที่ 9 กว้างเกินไป ปล่อยให้ Yamanaka สามารถตีคู่ขึ้นมาได้ และจากนั้นทั้งคู่ก็พุ่งอย่างเร็วเข้าสู่โค้งดันล็อป (โค้งที่ 10) ที่มีความแคบอย่างมาก และ Yamanaka ก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าถึงเวลาทุ่มหมดหน้าตัก ด้วยการเบรกให้ช้ากว่าคู่แข่ง แล้วพุ่งผ่านหน้า Nakamura และวิ่งเข้าไปอยู่ในวงในของ Supra ของ Bonelli ที่นำอยู่หัวขบวน และจากนั้นทั้งสามคนก็ตีคู่กันเข้าโค้ง และ Yamanaka พุ่งออกมาขึ้นนำการแข่งขันไปได้ และพอเริ่มฉีกตัวออกไปได้ ก็เกิดการตะลุมบอนกันแบบอุตลุดอยู่ข้างหลัง เพราะว่า Miyazono กับ Latkovski ได้ขับมาจ่อท้าย Bonelli และ Nakamura ทำให้เกิดการสู้แบบ 4 คนตลอดช่วงโค้งสุดท้ายของสนาม

เมื่อฝุ่นตลบอบอวลได้จางลงแล้ว Tomoaki Yamanaka ก็ได้เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ตามมาด้วย Bonelli, Nakamura และ Latkovski ที่สามารถบีบตัวผ่าน Miyazono ขึ้นมาได้ในโค้งสุดท้าย หลังจากการแข่งขัน Jin Nakamura โดนลงโทษ 2.0 วินาทีเพราะว่าไปชนกับรถคันอื่น ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถผ่านเข้าไปยังรอบชิงชนะเลิศได้ แน่นอนว่านี่เป็นอะไรที่บั่นทอนกำลังใจของนักแข่งชาวญี่ปุ่นผู้ที่สามารถนำหน้าคนอื่นได้เกือบตลอดทั้งการแข่งขัน แต่ก็อย่างคำกล่าวอันโด่งดังว่ากันไว้ว่า “การแข่งรถก็แบบนี้แหละ”

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Tomoaki Yamanaka yamado_racing38 13:28.846
2 Lucas Bonelli TGT_BONELLI +00.546
3 Cody Nikola Latkovski Nik_Makozi +01.660
4 Takuma Miyazono Kerokkuma_ej20 +01.771
5 Mamoru Okada APEX-M_Okada +02.059
6 Angel Inostroza YASHEAT_Loyrot +02.321
7 Daniel Holland MetalGear9493 +02.660
8 Jin Nakamura EDGE--RS +03.168
9 Douglas Wilson dctrburdock +03.228
10 Mark Pinnell Turismo-lester +05.381
11 Daniel Solis Px7-Lamb +05.924
12 Nicolas Martin NikoAM19 +06.146

รอบชิงชนะเลิศ

อีเวนต์สุดท้ายของวันคือการแข่งขัน 15 รอบสนามรอบเซอร์กิต เดอ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์อันโด่งดังในประเทศเบลเยียม แต่ว่าการแข่งขันครั้งนี้จะไม่เหมือนกับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ เพราะว่าจะต้องใช้กลยุทธ์วางแผนการเข้าพิต โดยนักแข่งแต่ละคนจะถูกบังคับให้ใช้ยางเนื้อยางอ่อน ปานกลาง และแข็งเป็นเวลาอย่างน้อย 1 รอบสนาม และถึงแม้ว่า Jose Serrano จากประเทศสเปนกับ Tomoaki Yamanaka จากประเทศญี่ปุ่นจะเป็นผู้เก็บชัยชนะมาในรอบรองชนะเลิศก็ตาม ขบวนออกตัวของรอบชิงชนะเลิศนั้น ก็จะต้องตัดสินกันด้วยช่วงวิ่งกับเวลา 10 นาทีกันอีกครั้ง ซึ่ง Serrano ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าตนเองคือคนที่เร็วที่สุด ตามมาด้วย Takuma Miyazono จากประเทศญี่ปุ่น และ Lucas Bonelli จากประเทศบราซิล

เมื่อไฟเขียว ก็เกิดการวิ่งกระหน่ำดุเดือดเข้าไปยังโค้งแรกทันที ถึงแม้ว่ารถยนต์หลายคันเกือบจะชนกันในเข้าแย่งชิงตำแหน่งครั้งนี้ แต่ทุกคันก็สามารถผ่านไปได้อย่างไร้รอยขีดข่วน โดย Serrano, Miyazono และ Bonelli ที่ใช้ยางเนื้อยางอ่อนเป็นกลุ่มหัวขบวน ส่วนกลางขบวนนั้นก็มี Cody Nikola Latkovski จากประเทศออสเตรเลียอยู่ในลำดับที่ 4 จนไปถึง Yamanaka ที่อยู่ในลำดับที่ 9 ซึ่งแต่ละคนก็ใช้ยาง Michelins เนื้อยางปานกลาง และเห็นได้ชัดว่าใช้กลยุทธ์การเข้าพิตที่แตกต่างจากกลุ่มหัวขบวน เมื่อมาถึงรอบสนามที่ 3 นักแข่ง 3 ลำดับแรกก็นำห่างทั้งขบวนออกไป 5.0 วินาที โดยที่ในขณะเดียวกัน Giorgio Mangano นักแข่งชาวอิตาลีผู้ออกตัวอยู่ในลำดับที่ 5 ก็ได้หลุดออกจากการแข่งขันไปเพราะเกิดปัญหาด้านเทคนิค

เมื่อมาถึงรอบสนามที่ 4 Angel Inostroza จากประเทศชิลีได้เริ่มหาทางจัดการกับ Latkovski ที่ช่วงทางตรงเคมเมล ตามจี้และพุ่งผ่านนักแข่งชาวออสเตรเลียไปได้ด้วยความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปอยู่ในลำดับที่ 4

การเข้าพิตที่มีความหมายครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นในรอบสนามที่ 8 ในเวลาที่หัวขบวนทั้ง 3 คันได้เข้ามาโดยมีระยะห่างระหว่างตนเองกับ Latkovski ที่ 4 อยู่ถึง 13 วินาที ซึ่ง Latkovski เอง ก็มีระยะห่างระหว่างตนเองกับ Ádám Tápai ลำดับที่ 5 จากประเทศฮังการีถึง 15 วินาที โดย Jose Serrano ที่นำหัวขบวนอยู่นั้นเลือกใช้ยางเนื้อยางปานกลาง ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับ Lucas Bonelli แต่ทว่า Miyazono ที่อยู่ในลำดับที่ 2 ผู้ที่รู้จักกันดีว่ามีแผนการเข้าพิตอันเฉียบแหลม เลือกที่จะทำตรงกันข้าม หันไปใช้ยางเนื้อยางแข็ง พ่อรถยนต์ทั้ง 3 คันกลับลงมาอยู่ในสนามแข่ง Serrano ก็สามารถฉีกตัวออกไปได้ทันที ส่วน Bonelli ก็วิ่งผ่าน Miyazono ไปได้ที่โค้งชิเคนบัสสต็อปยึดลำดับที่ 2 มาได้สำเร็จ และด้วยระยะห่างระหว่างยางเนื้อยางอ่อนกับเนื้อยางแข็งที่อยู่ที่ประมาณ 3.5 วินาทีต่อรอบสนามนั้น หลายคนก็เริ่มสงสัยว่า Miyazono ได้ตัดสินใจผิดหรือเปล่าที่เลือกใช้ยาง Michelins เนื้อยางแข็งกันตั้งแต่ช่วงต้น ๆ ของการแข่งขัน ทำให้ Inostroza ที่ใช้ยางเนื้อยางอ่อนวงใหม่ หลังจากแซง Tápai ขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 4 นั้น ก็ได้หมายตาไปที่ Miyazono ที่ใช้ยางที่มีความเร็วต่ำกว่า

เมื่อมาถึงรอบสนามที่ 9 Miyazono ได้เข้าพิตเป็นครั้งที่ 2 โดยเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้อยางปานกลาง และกลับลงมาสนามอยู่ในลำดับที่ 6 พร้อมกับปฏิบัติตามเงื่อนไขการเปลี่ยนยางได้ครบเป็นที่เรียบร้อย และได้วางแผนที่จะวิ่งจนจบโดยไม่มีการเข้าพิตอีก ในขณะเดียวกันนั้น Valerio Gallo จากประเทศอิตาลีที่ได้ออกตัวอยู่ในลำดับที่ 7 เริ่มไต่ลำดับขึ้นมา แซง Inostroza ผ่านโค้งเลอส์ก็อมบ์ส มายึดลำดับที่ 3 ไปครองได้สำเร็จ

และในขณะนี้ก็ได้แข่งกันไป 3 ใน 4 ของการแข่งขันแล้ว Serrano ก็นำ Bonelli ลำดับที่ 2 อยู่อย่างสบายๆ ถึง 2.1 วินาที แต่ว่าทั้งคู่ยังจำเป็นจะต้องเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้อยางแข็งอยู่ เมื่อมาถึงรอบสนามที่ 13 นักแข่งชาวบราซิลก็เปิดไฟเลี้ยวเข้าพิตครั้งสุดท้ายเป็นคนแรก Gallo เองก็เข้า พิตด้วยเช่นกัน และด้วย Inostroza ที่เข้าพิตไปในรอบสนามก่อนหน้านั้น ทั้งหมดนี้ก็ทำให้ Miyazono ขึ้นมาอยู่ที่ 2 ได้ราวกับปาฏิหาริย์

และเหลือเพียงอีกรอบสนามเดียวก็จะสิ้นสุดการแข่งขัน Serrano ก็ได้เข้าพิตเป็นครั้งสุดท้ายโดยนำหน้า Miyazono อยู่ 20 วินาที แล้วก็พูดเลยว่าตอนนี้ตำแหน่งแชมป์อยู่ในมือเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพราะว่าต่อให้เข้าเส้นชัยเป็นที่ 2 และต่อให้ Miyazono ชนะก็ตาม Serrano ก็ยังมีแต้มโดยรวมที่มากกว่าอยู่ดี หลังจากที่เปลี่ยนยางเรียบร้อย นักแข่งชาวสเปนก็ลงกลับมาในสนามอยู่ข้างหลัง Miyazono... และไม่น่าเชื่อว่าตามหลัง Bonelli อยู่ด้วยเช่นกัน! ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า Serrano จะเข้าเส้นชัยเป็นที่ 3 ได้ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ลำดับการชิงแชมป์ทั้งหมดเปลี่ยนไปทันที ทำให้ Serrano หลุดออกจากตำแหน่ง 16 แต้มที่จะทำให้ตนเองกลายเป็นแชมป์ ไปอยู่ในตำแหน่ง 14 แต้มเพียงชั่วพริบตาเดียว ส่วนแต้มโดยรวมของ Miyazono ก็จะมี 15 แต้ม ทำให้ไปเสมอกับ Bonelli และจะทำให้นักแข่งชาวญี่ปุ่นเป็นแชมป์ตามคะแนนโดยรวมทันที เพราะว่าเป็นผู้ชนะในรอบชิงชนะเลิศ

และนั่นก็คือการปิดฉาก Miyazono ทำสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนด้วยกลยุทธ์การเข้าพิตระดับอัจฉริยะ และเก็บชัยชนะอย่างน่าทึ่งไปได้อีกครั้งหนึ่ง ส่วน Bonelli เองก็ถือว่าสามารถวิ่งได้อย่างดีตั้งแต่เริ่มออกตัวจนถึงเข้าเส้นชัย เก็บที่ 2 จากการแข่งขันและเป็นรองแชมป์ไปได้สำเร็จ ตามมาด้วย Serrano ที่ 3 กับ Coque López เพื่อนร่วมชาติที่อยู่ในอันดับที่ 4

Takuma Miyazono คือแชมป์ GR Supra GT ประจำปี 2020 คนใหม่ และได้พูดเกี่ยวกับการชนะแบบพลิกเกมในครั้งนี้ว่า “ผมรู้สึกมีความสุขมากครับที่ทุกอย่างสามารถดำเนินการได้สำเร็จ ทุกคนแข่งขันอย่างจริงจังมาก ผมรู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่สามารถคว้าแชมป์ไปครองได้ นอกจากนั้นผมยังรู้สึกมีความสุขที่สามารถใช้การแผนการเข้าพิตของผมได้สำเร็จ แต่ก็เรียกได้ว่าลนกันถึงวินาทีสุดท้ายเลยครับ และตัวผมเองก็หวังว่าจะสามารถรักษาผลงานแบบนี้ได้จนถึงรอบ World Finals ของ Nations Cup ครับ”

อันดับ นักแข่ง เวลา
1 Takuma Miyazono Kerokkuma_ej20 40:43.261
2 Lucas Bonelli TGT_BONELLI +03.754
3 Jose Serrano PR1_JOSETE +04.617
4 Coque López Williams_Coque14 +08.373
5 Valerio Gallo Williams_BRacer +08.534
6 Cody Nikola Latkovski Nik_Makozi +08.860
7 Tomoaki Yamanaka yamado_racing38 +09.145
8 Ádám Tápai TRL_ADAM18 +09.551
9 Angel Inostroza YASHEAT_Loyrot +09.716
10 Mamoru Okada APEX-M_Okada +21.310
11 Rick Kevelham HRG_RK23 +22.170
12 Giorgio Mangano Williams_Gio DNF

ผลการแข่งขันรายการแข่งขัน Toyota GR Supra GT Cup ประจำปี 2020

อันดับ นักแข่ง รอบรองชนะเลิศ รอบชิงชนะเลิศ คะแนนรวม
1 Takuma Miyazono Kerokkuma_ej20 3 12 15
2 Lucas Bonelli TGT_BONELLI 5 10 15
3 Jose Serrano PR1_JOSETE 6 8 14
4 Coque López Williams_Coque14 4 7 11
5 Tomoaki Yamanaka yamado_racing38 6 4 10
6 Valerio Gallo Williams_BRacer 3 6 9
7 Cody Nikola Latkovski Nik_Makozi 4 5 9
8 Ádám Tápai TRL_ADAM18 2 3 5
9 Rick Kevelham HRG_RK23 5 0 5
10 Angel Inostroza YASHEAT_Loyrot 1 2 3
11 Mamoru Okada APEX-M_Okada 2 1 3
12 Giorgio Mangano Williams_Gio 1 0 1
GR Supra GT Cup 2020 | รอบสุดท้าย
นี่คือการแข่งขันวันเมคที่มีความเป็นสากลที่สุดของเรา เพราะว่า...

กลับสู่รายการ